ฟังเพลง แสงสุดท้าย Bodyslam
-
ฟังเพลง แสงสุดท้าย Bodyslam
แสงสุดท้าย
Bodyslam
คราม
ค่าย : GENIE RECORDS
คำร้อง โป โปษยะนุกูล & ขจรเดช พรมรักษา
เรียบเรียง Bodyslam & พูนศักดิ์ จตุระบุล
ฟ...
รวมข้อมูลโทรศัพย์มือถือ ข้อมูลโทรศัพย์มือถือ มือถือ โทรศัพท์มือถือ ราคามือถือ รีวิวมือถือ มือถือออกใหม่ มือถือรุ่นใหม่
31.10.52
HTC Magic Specification
HTC Magic Video Review
I don't pursure freedom. I live it.
Review Date (23-July-2009)
วันนี้เราจะนำทุกท่านไปทำความรู้จักกับมือถือระบบปฏิบัติการ Android รุ่นแรกที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งก็คือ HTC Magic รุ่นนี้นั่นเอง โดยที่ Android OS นั้นก็เป็นระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดที่ถูกนำมาใช้ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google แม้ว่าตอนนี้ Android ยังอยู่ในช่วงเริ่มก่อร่างสร้างตัว แต่ด้วยการที่เป็นระบบเปิด ในอนาคตก็น่าจะมีแอปพลิเคชันให้ใช้งานกันอีกมากมายจากนักพัฒนาทั่วโลกอย่างแน่นอน
HTC Magic Video Review & Focus
วิดีโอรีวิว HTC Magic : Part 1
HTC Magic Video Review : Part 2
Nokia N97 Specification
Nokia N97 Specification
Nokia N97 Video Review
Real life, Real internet, Real personal
Review Date (4-August-2009)
สำหรับ โทรศัพท์มือถือ ที่เรานำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันวันนี้เป็น มือถือจอสัมผัส รุ่นที่สองถัดจาก 5800 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Symbian OS เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ได้แก่ Nokia N97 รุ่นนี้นั่นเอง และด้วยการที่ N97 เป็นรุ่นสูงสุดในตระกูล Nseries และในบรรดา มือถือ โนเกียทั้งหมดในขณะนี้ ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่นักที่ผู้ใช้จะคาดหวังเอาไว้สูงกับรุ่นนี้ ทั้งในเรื่องความหลากหลายของแอปพลิเคชันตามสไตล์ของสมาร์ทโฟน ประสิทธิภาพในการใช้งาน รวมถึงเรื่องความบันเทิงมัลติมีเดียอันครบครันตามสไตล์ของ มือถือ ตระกูล Nseries นั่นเอง
Nokia N97 Video Review & Focus
วิดีโอรีวิว Nokia N97 : Part 1
HTC Magic Video Review : Part 2
Samsung S5233T Star TV Video Review
Samsung S5233T Star TV Video Review
Mobile TV on Touch
Review Date (21-October-2009)
หลังจากที่ Samsung Star รุ่นแรกได้วางจำหน่ายไปเพียงแค่ 3-4 เดือน ก็ได้ข่าวว่าทำยอดขายไปได้กว่าแสนเครื่องเลยทีเดียว อีกทั้งเร็วๆ นี้ก็ได้มี Samsung Star WiFi เข้าสู่ตลาดอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งได้เข้ามาเติมเต็มในเรื่องการเชื่อมต่อ WiFi ให้กับ Samsung Star และรุ่นล่าสุดสดๆ ร้อนๆ ที่เรานำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันในวันนี้ก็ได้แก่ Samsung Star TV รุ่นที่ท่านกำลังเห็นอยู่นี้ ซึ่งถือว่าเป็น มือถือ Inter Brand รุ่นแรกที่นำ TV ระบบ Analog มาใส่ไว้ใน โทรศัพท์มือถือ ก็ว่าได้
Samsung S5233T Star TV Video Review & Focus
วิดีโอรีวิว Samsung S5233T Star TV : Part 1
วิดีโอรีวิว Samsung S5233T Star TV : Part 2
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W3329 - เวลคอม W3329
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W3329 - เวลคอม W3329
เปิดตัวครั้งแรก 28 ตุลาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Dualband (GSM 900/1800 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 262,144 สี - 220 x 176 พิกเซล (2.2")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
- แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY (Integrated full keyboard)
เสียงเรียกเข้า MP3, WMV, AMR, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 1 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)
เมนูและการพิมพ์ รองรับภาษาไทย/อังกฤษ
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W3329 - เวลคอม W3329
ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ Bluetooth™ , USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต WAP Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- MMS, SMS ผ่าน GPRS
- ข้อความแชท - Instant Messaging - MSN
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W3329 - เวลคอม W3329
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ในตัว (TV Tuner)
รองรับการทำงาน 2 ซิมการ์ด พร้อมกัน (Dual SIM cards)
กล้องดิจิตอล 1.3 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- ใช้งานเป็น Web Camera ในตัว
บันทึกภาพวีดีโอ พร้อมเครื่องเล่น (Video recording & Playback)
- รูปแบบไฟล์ : AVI (บันทึก) / AVI, 3GP, MP4 (เล่นกลับ)
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์ MP3, AAC, WAV, AMR, MIDI
วิทยุ FM Radio
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
- รูปแบบไฟล์ : AMR, WAV
เสียงเอฟเฟ็คระหว่างสนทนา (Background Sound)
ควบคุมฟังก์ชั่นด้วยการสั่นไหวตัวเครื่อง (Motion Sensor)
ฟังก์ชั่น BlackList ปฏิเสธสายที่ไม่ต้องการรับ
นาฬิกาปลุก รองรับการตั้งปลุก 5 รายการ
สิ่งที่ต้องทำ, ปฏิทิน, เวลาโลก, เครื่องคิดเลข
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 120 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 180 นาที (Talk Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ WellcoM W3329 [PIC & VOTE]
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W9119 - เวลคอม W9119
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W9119 - เวลคอม W9119
ข้อมูลทั่วไป WellcoM W9119 - เวลคอม W9119
เปิดตัวครั้งแรก 28 ตุลาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Dualband (GSM 900/1800 MHz)
จอสัมผัส TFT-LCD 262,144 สี - 240 x 400 พิกเซล (3.0")
- อินเตอร์เฟสเมนูสไตล์ Widget/Drag and Drop
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 31 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 300 รายชื่อ (Phonebook)
- แสดงรูปถ่ายขณะมีสายเข้า (Picture caller ID)
เมนูและการพิมพ์ รองรับภาษาไทย/อังกฤษ/เวียดนาม
ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ Bluetooth™ , USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต WAP Browser
- เว็บบราวเซอร์ Opera mini (Web Browser)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- MMS, SMS ผ่าน EDGE, GPRS
- ข้อความแชท - Instant Messaging - MSN
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ในตัว (TV Tuner)
รองรับการทำงาน 2 ซิมการ์ด พร้อมกัน (Dual SIM cards)
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Digital Camera)
- ใช้งานเป็น Web Camera ในตัว
- ขนาดภาพถ่ายสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล (Digital zoom)
- โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน
- โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง 1, 3, 5 ภาพ
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ 5, 10, 15 วินาที
- Effect : ขาวดำ, ซีเปีย, ซีเปียเขียว, ซีเปียน้ำเงิน, สีมัว
- สมดุลแสง : อัตโนมัติ, กลางวัน, ทังสเตน, ฟลูออเรสเซนท์, มีเมฆ, แสงจ้า
- เสียงกดชัตเตอร์ มีให้เลือก 3 เสียง และ ปิดเสียง
- ค่าชดเชยแสง EV -2 ถึง 2
- ความคมชัด : ต่ำ, กลาง, สูง
- คุณภาพ : ต่ำ, กลาง, สูง
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MPEG4, .3GP
- ซูมดิจิตอล 3 เท่า (3x Digital zoom)
- โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน
- โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน
- โหมดจำกัดขนาด 95kb, 195kb, 295kb และ ไม่จำกัดขนาด
- โหมดจำกัดเวลา 15, 30, 60 วินาที และ ไม่จำกัดเวลา
- เิปิดหรือปิดการบันทึกเสียง
- Effect : ขาวดำ, ซีเปีย, ซีเปียเขียว, ซีเปียน้ำเงิน, สีมัว
- สมดุลแสง : อัตโนมัติ, กลางวัน, ทังสเตน, ฟลูออเรสเซนท์, มีเมฆ, แสงเทียน
- ค่าชดเชยแสง EV -2 ถึง 2
- คุณภาพ : ละเอียด, ต่ำ, กลาง, สูง
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Playback)
- รูปแบบไฟล์ MPEG4, .3GP
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์ MP3, AAC, AAC+, WAV, AMR, MIDI
วิทยุ FM Radio
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
- รูปแบบไฟล์ : AMR,AWB, WAV
ฟังก์ชั่นปฏิเสธสาย/ข้อความ ที่ไม่ต้องการรับ (BlackList)
ควบคุมฟังก์ชั่นด้วยการสั่นไหวตัวเครื่อง (Motion Sensor)
- คว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า
- เขย่าเครื่องเพื่อเปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอหลัก
- เขย่าเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลง
- หมุนหน้าจอเพื่อดูภาพในอัลบั้มแนวตั้งหรือแนวนอน
- หมุนหน้าจอเพื่อดูวิดีโอแนวตั้งหรือแนวนอน
E-Book Reader สำหรับอ่านไฟล์เอกสารไฟล์ .txt
นาฬิกาปลุก รองรับการตั้งปลุก 5 รายการ
สิ่งที่ต้องทำ, ปฏิทิน, เวลาโลก, เครื่องคิดเลข, นาฬิกาจับเวลา, อัตราแลกเปลี่ยน
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,100 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 120 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 180 นาที (Talk Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ WellcoM W9119 [PIC & VOTE]
ซัมซุง สตาร์ ทีวี ขายแล้ววันนี้ Woww..
ซัมซุง สตาร์ ทีวี ขายแล้ววันนี้ Woww..
ซัมซุงแนะนำ ซัมซุง สตาร์ ทีวี (Samsung Star TV) ครั้งแรกของทัชโฟนทีวีดีไซน์สวยที่พร้อมมอบความคมชัดที่เหนือกว่าให้คอทีวีตัวจริงได้รับความบันเทิงเต็มอิ่มทุกที่ทุกเวลา “ซัมซุง สตาร์ ทีวี” มาพร้อมกับทีวีจูนเนอร์ และเพิ่มเสาอากาศรับสัญญาณและระบบค้นหาสัญญาณอัตโนมัติให้การดูทีวีคมชัดใส รองรับช่อง 3, 5, 7, 9, NBT และไทยทีวี ผสานความคมชัดจากหน้าจอสัมผัสขนาดกว้าง 3 นิ้ว บนดีไซน์เครื่องขนาดบางเพียง 11.9 มิลลิเมตร และเทคโนโลยีระบบสัมผัส TouchWiz เอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุงที่ทำให้การสั่งงานเมนูต่างๆ ง่ายด้วยปลายนิ้วสัมผัสจึงรับชมความบันเทิงได้อย่างสนุกง่ายดายมีสไตล์กว่าใคร
นอกจากนี้ ”ซัมซุง สตาร์ ทีวี” ยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์แบบด้วยลูกเล่นมัลติมีเดียหลากหลาย อาทิ กล้องดิจิตอลความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล ระบบจับภาพรอยยิ้ม “Smile Shot” โปรแกรมบันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหวความละเอียด QVGA เครื่องเล่น MP3 และวิทยุเอฟเอ็มคุณภาพเสียงระดับสูงด้วยเทคโนโลยี DNSe เอกสิทธิ์เฉพาะจากซัมซุง ให้เสียงชัดใสสมจริง ออนไลน์ได้ทันทีบน MySpace, Facebook การค้นหาข้อมูลด้วย Google ข่าวกีฬา หรือดาวน์โหลดเกมส์ใหม่ๆ พร้อมเอื้อให้ทุกการใช้งานการรับชมทีวีเต็มอรรถรสไม่ขัดจังหวะความบันเทิงด้วยแบตเตอรี่ Li-lon ขนาด 1,000 มิลลิแอมป์ที่ทำให้รับชมทีวีได้นานเต็มอิ่มถึง 3 ชั่วโมง
“ซัมซุง สตาร์ ทีวี” พร้อมวางวางจำหน่ายแล้ว ณ ร้านซัมซุงช้อปและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุงทั่วประเทศ ในราคาเครื่องละ 7,990 บาท ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าซัมซุงโทรฟรีจากโทรศัพท์บ้าน 1-800-29-3232
Samsung B7620 Giorgio Armani - ซัมซุง B7620
Samsung B7620 Giorgio Armani - ซัมซุง B7620
ข้อมูลทั่วไป Samsung B7620 Giorgio Armani - ซัมซุง B7620
เปิดตัวครั้งแรก 12 ตุลาคาม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 34,300 บาท (€700 ยูโร)
Samsung B7620 Giorgio Armani - ซัมซุง B7620
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 900/1900/2100 MHz
- HSDPA 7.2 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
จอสัมผัส AMOLED 16 ล้านสี 480 x 800 พิกเซล (3.5")
- หน้าจอ Widget ควบคุมไอคอนที่หน้าจอสัมผัส
- หน้าจอระบบสัมผัสแบบใช้ตัวต้านทาน (Resistive touch screen)
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor)
แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile® 6.5 Professional
- CPU : Samsung S3C6410™, 800MHz
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 8 กิ๊กกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- หน่วยความจำ RAM 192 MB (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN), DLNA certified™
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 with EDR , microUSB v2.0, TV-out
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML, WAP 2.0 Browser
- เว็บบราวเซอร์ Opera Browser 9.5 (Web Browser)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email, MMS, SMS
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
ผ่าน 3G, HSDPA, HSCSD, EDGE, GPRS Class 10
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2592x1944 พิกเซล (Image size)
- โหมดปรับภาพอัตโนมัติ (Autofocus)
- โฟกัสใบหน้า (Face Detection)
- ตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Shot)
- ปรับภาพภาพย้อนแสงได้ (Wide dynamic range)
- โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging)
กล้องตัวที่สองรองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video player)
- รูปแบบไฟล์ H.263, MPEG4, WAV, MMV, DivX, XviD
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รูปแบบไฟล์ SP-Midi, SMAF, MP3, AAC, AAC+, WMA
วิทยุ FM Radio - RDS
สแกนนามบัตรเป็นรายชื่อผู้ติดต่อ (Business Card Scanner)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
โปรแกรมติดตั้งมาตรฐานในเครื่อง (Standard applications)
- Office Mobile : ใช้งานเอกสาร Word, Excel, Powerpoint, OneNote
- Outlook Mobile : โปรแกรมรับ-ส่งอีเมล์ (Email)
- PDF Viewer : อ่านไฟล์เอกสาร PDF
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Samsung B7620 Giorgio Armani [PIC & VOTE]
Samsung i5700 SPICA - ซัมซุง i5700 SPICA
Samsung i5700 SPICA - ซัมซุง i5700 SPICA
ข้อมูลทั่วไป Samsung i5700 SPICA - ซัมซุง i5700 SPICA
เปิดตัวครั้งแรก 30 ตุลาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยัีงไม่ระบุ
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- UMTS 2100 MHz , HSDPA 3.6 Mbps
จอสัมผัส AMOLED 16 ล้านสี - 320 x 480 พิกเซล (2.8")
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor)
เสียงเรียกเข้า MP3 , WAV , Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฎิบัติการ Android เวอร์ชั่น 1.5 Cupcake
- CPU : Qualcomm® MSM6246™, 800 MHz
หน่วยความจำ 1 GB (ตัวเครื่อง)
- หน่วยความจำ RAM 128 MB (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0, micro-USB v2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML/WAP Browser
- รองรับการใช้งาน Google Search, Gmail, Calendar
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP
Samsung i5700 SPICA - ซัมซุง i5700 SPICA
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแผนที่ Google Maps™
- เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048x1536 พิกเซล (Image size)
- โหมดปรับภาพอัตโนมัติ (Autofocus)
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Playback)
- วีดีโอสตรีมมิ่ง YouTube™
เครื่องเล่นเพลง (Music player)
โปรแกรมใช้งานเอกสาร (Word , Excel , Powerpoint , PDF)
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม (Android market)
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)
Samsung i5700 SPICA - ซัมซุง i5700 SPICA
Samsung Star รุ่นพิเศษลาย Hello Kitty
Samsung Star รุ่นพิเศษลาย Hello Kitty
โทรศัพท์มือถือ Samsung Star ถือว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นับตั้งแต่วางจำหน่ายช่วงกลางปี 2552 จนกระทั่งปัจจุบัน สามารถทำยอดขายทะลุ 5 ล้านเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว (สถิติ 5 ล้านเครื่องทั่วโลก เฉพาะประเทศไทย จำหน่ายไปแล้วกว่า 1 แสนเครื่อง) หากไม่โดนกระแส Samsung Candy กลบไปเสียก่อน ปลายปีนี้อาจทำยอดขายทะลุ 10 ล้านเครื่องก็เป็นได้
Samsung Star รุ่นพิเศษลาย Hello Kitty
ในเมื่อโทรศัพท์ Samsung Star ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าขนาดนี้ ปัญหาที่ตามมาของลูกค้าก็คือ ความจำเจ และดูไม่เป็นเอกลักษณ์ เพราะพกพาไปไหนต่อไหนก็จะเจอคนใช้รุ่นเดียวกันอยู่เสมอ ในปัจจุบัน Samsung Star ที่มีจำหน่ายอยู่ในบ้านเรา มีทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ, สีขาว และ สีชมพู หากต้องการเลือกใช้สีอื่นเพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเอง อาจจะเลือกซื้อเคสหรือซองมาสวมใส่ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ขอแนะนำ Samsung Star ลาย Hello Kitty ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Sanrio มีจำหน่ายในประเทศเบลเยี่ยม ในราคาเปิดตัว 169 ยูโร หรือประมาณ 8,290 บาท เรียกได้ว่ามีราคาพอๆ กับรุ่นปกติ หรือ สั่งซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์อาจหาซื้อได้ในราคา 150 ยูโร หรือประมาณ 7,390 บาท หากยังไม่ถูกใจหรือไม่กล้าสั่งซื้อ คงต้องรอ Samsung Star รุ่นใหม่ ที่ติดทีวีจูนเนอร์มาให้ในตัว เพิ่มออฟชั่นเสริมความเท่เข้าไปอีก คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายไม่เกินปลาย
Samsung Star รุ่นพิเศษลาย Hello Kitty
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
ข้อมูลทั่วไป Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
เปิดตัวครั้งแรก 10 มิถุนายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (สิงหาคม 52)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 199 เหรียญ US (สำหรับความจุ 16GB)
- ราคา 299 เหรียญ US (สำหรับความจุ 32GB)
* ราคาดังกล่าวสำหรับลูกค้า AT&T ทำสัญญา 2 ปี
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- UMTS 850/1900/2100 MHz , HSDPA 7.2 Mbps
จอสัมผัส Multi-Touch - 320 x 480 พิกเซล (3.5")
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Auto Rotating Display)
- หน้าจอเคลือบ Oleophobic ป้องกันรอยนิ้วมือ
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฎิบัติการ MAC OS X เวอร์ชั่น 10.4.11
หน่วยความจำ 16 GB / 32 GB (ตัวเครื่อง)
ระบบตรวจจับ (Sensors)
- Accelerometer : ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง
- Proximity sensor : ตรวจจับระยะห่างระหว่างตัวเครื่องกับใบหน้า เพื่อปิดการใช้งานจอแสดงผลเวลาสนทนา
- Ambient light sensor : ปรับแสงสว่างของไฟหน้าจออัตโนมัติ
มี 2 สีให้เลือก (Colors) : ดำ (Black), ขาว (White)
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g , WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1+ EDR , USB v2.0
ใช้งานอินเตอร์เน็ต Full HTML (Safari Browser)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (POP3/IMAP4) รองรับ Gmail / Yahoo / AOL
- MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In GPS/A-GPS navigation)
- รองรับแผนที่ Google Maps
- เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- เลือกจุดโฟกัสอิสระ (Touch Focus)
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Photo geotagging)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับวิดีโอ (Video geotagging)
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player)
- รูปแบบไฟล์ H.264 / MPEG4 / MOV
- รองรับ YouTube™
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
เครื่องเล่นเพลง iPod
- รูปแบบไฟล์ AAC, MP3, MP3 VBR, Apple Lossless, AIFF, WAV, Audible (formats 2, 3, and 4)
- เลือกเพลงด้วยเสียง (Use your voice to play music)
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ฟังก์ชั่นด้านเสียง (Voice Control)
- โทรออกด้วยเสียง (Voice Dial)
- คำสั่งเสียง (Voice Commands)
- บันทึกข้อความเสียง (Voice Memo)
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
โปรแกรมเอกสาร (Word, Excel, PowerPoint, PDF viewer)
ปฏิทิน, จดบันทึก, นาฬิกาปลุก, จับเวลา, เวลาโลก, เครื่องคิดเลข
Airplane mode : ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion - mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 300 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ UMTS 5 ชั่วโมง
ใช้งานอินเตอร์เน็ตนานต่อเนื่อง (Internet use)
- ระบบ UMTS 5 ชั่วโมง / ระบบ Wi-Fi 9 ชั่วโมง
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง (Video playback)
ฟังเพลงนานต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง (Audio playback)
iPhone 3G Demo: iPod
ข้อมูลทั่วไป Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
เปิดตัวครั้งแรก 10 มิถุนายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (สิงหาคม 52)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 199 เหรียญ US (สำหรับความจุ 16GB)
- ราคา 299 เหรียญ US (สำหรับความจุ 32GB)
* ราคาดังกล่าวสำหรับลูกค้า AT&T ทำสัญญา 2 ปี
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- UMTS 850/1900/2100 MHz , HSDPA 7.2 Mbps
จอสัมผัส Multi-Touch - 320 x 480 พิกเซล (3.5")
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Auto Rotating Display)
- หน้าจอเคลือบ Oleophobic ป้องกันรอยนิ้วมือ
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฎิบัติการ MAC OS X เวอร์ชั่น 10.4.11
หน่วยความจำ 16 GB / 32 GB (ตัวเครื่อง)
ระบบตรวจจับ (Sensors)
- Accelerometer : ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง
- Proximity sensor : ตรวจจับระยะห่างระหว่างตัวเครื่องกับใบหน้า เพื่อปิดการใช้งานจอแสดงผลเวลาสนทนา
- Ambient light sensor : ปรับแสงสว่างของไฟหน้าจออัตโนมัติ
มี 2 สีให้เลือก (Colors) : ดำ (Black), ขาว (White)
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g , WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1+ EDR , USB v2.0
ใช้งานอินเตอร์เน็ต Full HTML (Safari Browser)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (POP3/IMAP4) รองรับ Gmail / Yahoo / AOL
- MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In GPS/A-GPS navigation)
- รองรับแผนที่ Google Maps
- เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- เลือกจุดโฟกัสอิสระ (Touch Focus)
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Photo geotagging)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับวิดีโอ (Video geotagging)
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player)
- รูปแบบไฟล์ H.264 / MPEG4 / MOV
- รองรับ YouTube™
Apple iPhone 3GS - ไอโฟน 3GS
เครื่องเล่นเพลง iPod
- รูปแบบไฟล์ AAC, MP3, MP3 VBR, Apple Lossless, AIFF, WAV, Audible (formats 2, 3, and 4)
- เลือกเพลงด้วยเสียง (Use your voice to play music)
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ฟังก์ชั่นด้านเสียง (Voice Control)
- โทรออกด้วยเสียง (Voice Dial)
- คำสั่งเสียง (Voice Commands)
- บันทึกข้อความเสียง (Voice Memo)
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
โปรแกรมเอกสาร (Word, Excel, PowerPoint, PDF viewer)
ปฏิทิน, จดบันทึก, นาฬิกาปลุก, จับเวลา, เวลาโลก, เครื่องคิดเลข
Airplane mode : ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion - mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 300 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ UMTS 5 ชั่วโมง
ใช้งานอินเตอร์เน็ตนานต่อเนื่อง (Internet use)
- ระบบ UMTS 5 ชั่วโมง / ระบบ Wi-Fi 9 ชั่วโมง
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง (Video playback)
ฟังเพลงนานต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง (Audio playback)
iPhone 3G Demo: iPod
Motorola Droid Android Phone เหนือกว่าทุกรายละเอียด
Motorola Droid Android Phone เหนือกว่าทุกรายละเอียด
เป๊งงงง ระฆังยกใหม่ดังขึ้น พร้อมกับมวยคู่เอกที่หลายคนกำลังจับตามอง กับการเปิดตัวอีกรุ่นแล้ว สำหรับน้องแอนดรอยด์โฟนที่เรียกได้ว่าได้เปรียบคู่ต่อสู้ขึ้นไปอีกขั้น Motorola Droid มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ล่าสุดจากค่าย Motorola ที่มาพร้อมกับแอนดรอยด์เอแคร์ (Eclair 2.0) ลูกเล่นครบครันหน้าจอละเอียดยิบ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนคู่ชก จาก HTC มาเป็น Motorola การขึ้นชกในครั้งนี้ Apple คงจะเหนือยหน่อย เพราะงานนี้ดูเหมือนว่า ฝ่าย Motorola จะได้เปรียบ Apple อยู่หลายขุมเหมือนกัน ..
Motorola Droid Accessory Walkthrough
คุณสมบัติเด่นของ Motorola Droid
หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียด 480 * 854 พิกเซล
หน่วยความจำ 16GB เพิ่มได้สูงสุด 32GB
สนทนาต่อเนื่องได้นานกว่า (iPhone 5 ชั่วโมง MotoDroid 6.4 ชั่วโมง)
กล้อง 5 ล้านพิกเซล
มี Build-in turn-by-turn navigation
รองรับ Mutitasking
motorola droid hardware
มาดูความน่าใช้ของมันชัดๆ ครับ
แนะนำตัวเครื่อง
Android 2.0 Settings vs. Android 1.6 Settings
วีดีโอเปรียบเทียบระหว่างแอนดรอยด์โฟนด้วยกัน
G1 ที่ใช้ Android Donut 1.6 กับ Moto Droid ที่ใช้ Android Eclair 2.0
จากนี้ไปก็คงต้องรอดูหละครับว่าเปิดขายไปแล้วยอดขายจะถล่มทลายหรือเปล่า สำหรับ Motolora Droid นั้นประเดิมขายที่ Verizon ก่อน ถ้าไม่รุ่งคงไม่มี แบบ GSM มาให้เราใช้แน่ ... จะเอาใจช่วยดีหรือเปล่าเนี้ย
ขอขอบคุณ
รูปภาพจาก pcworld.com
เป๊งงงง ระฆังยกใหม่ดังขึ้น พร้อมกับมวยคู่เอกที่หลายคนกำลังจับตามอง กับการเปิดตัวอีกรุ่นแล้ว สำหรับน้องแอนดรอยด์โฟนที่เรียกได้ว่าได้เปรียบคู่ต่อสู้ขึ้นไปอีกขั้น Motorola Droid มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ล่าสุดจากค่าย Motorola ที่มาพร้อมกับแอนดรอยด์เอแคร์ (Eclair 2.0) ลูกเล่นครบครันหน้าจอละเอียดยิบ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนคู่ชก จาก HTC มาเป็น Motorola การขึ้นชกในครั้งนี้ Apple คงจะเหนือยหน่อย เพราะงานนี้ดูเหมือนว่า ฝ่าย Motorola จะได้เปรียบ Apple อยู่หลายขุมเหมือนกัน ..
Motorola Droid Accessory Walkthrough
คุณสมบัติเด่นของ Motorola Droid
หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียด 480 * 854 พิกเซล
หน่วยความจำ 16GB เพิ่มได้สูงสุด 32GB
สนทนาต่อเนื่องได้นานกว่า (iPhone 5 ชั่วโมง MotoDroid 6.4 ชั่วโมง)
กล้อง 5 ล้านพิกเซล
มี Build-in turn-by-turn navigation
รองรับ Mutitasking
motorola droid hardware
มาดูความน่าใช้ของมันชัดๆ ครับ
แนะนำตัวเครื่อง
Android 2.0 Settings vs. Android 1.6 Settings
วีดีโอเปรียบเทียบระหว่างแอนดรอยด์โฟนด้วยกัน
G1 ที่ใช้ Android Donut 1.6 กับ Moto Droid ที่ใช้ Android Eclair 2.0
จากนี้ไปก็คงต้องรอดูหละครับว่าเปิดขายไปแล้วยอดขายจะถล่มทลายหรือเปล่า สำหรับ Motolora Droid นั้นประเดิมขายที่ Verizon ก่อน ถ้าไม่รุ่งคงไม่มี แบบ GSM มาให้เราใช้แน่ ... จะเอาใจช่วยดีหรือเปล่าเนี้ย
ขอขอบคุณ
รูปภาพจาก pcworld.com
Nokia 5730 Xpress Music
Nokia 5730 Xpress Music
Nokia 5730 Xpress Music
ขนาด : 112 x 51 x 15.4 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 135 กรัม
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5730 Xpress Music - โนเกีย 5730
- Play, Share, Chat -
เปิดตัวครั้งแรก 12 มีนาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (กรกฎาคม 52)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 12,390 บาท (กรกฎาคม 52)
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ WCDMA - 900/1900/2100 MHz - HSDPA 3.6 Mbps
- Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 16 ล้านสี - 240 x 320 พิกเซล (2.4")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
- แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
Nokia 5730 Xpress Music
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS เวอร์ชั่น 9.3 - S60 3.2 edition
เสียงเรียกเข้า Video, MP3, 64 Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 100 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- หน่วยความจำ 128 MB SDRAM/256 NAND Flash (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสุด 16 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 2,000 รายชื่อ (Phonebook)
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ 2.0 Bluetooth™ , USB 2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต WAP 2.0 Browser
- สนับสนุน Flash Lite 2.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP4, POP3, SMTP)
- MMS, EMS, SMS AMS ผ่าน 3G, HSDPA, EDGE, GPRS, HSCSD Class 32
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0, CLDC1.1
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Nokia Maps 2.0
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Carl Zeiss optics)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048x1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 8 เท่า (8x Digital zoom)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ระยะโฟกัส 10 เซนติเมตรขึ้นไป
- แฟลช LED ให้แสงได้ดีในระยะ 1 เมตร พร้อมฟังก์ชั่นลบจุดตาแดง
- สมดุลแสงสีขาว (Automatic, Sunny, Cloudy, Incandescent, Fluorescent)
- โทนสี (Normal, Sepia, Vivid, Negative, Grayscale)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ขนาดวีดีโอ 640 x 480 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- ขนาดวีดีโอ 320 x 240 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- ขนาดวีดีโอ 176 x 144 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
- ซูมดิจิตอล 2 เท่า (2x Digital zoom)
- สมดุลแสงสีขาว (Automatic, Sunny, Incandescent, Fluorescent)
- โหมดฉาก (Automatic, Night)
- โทนสี (Normal, Sepia, Black & white, Vivid, Negative)
กล้องตัวที่สอง VGA รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
- บันทึกวีดีโอ ความละเอียด 173 x 144 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : Flash Lite 2, MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : 3GP
เครื่องเล่นเพลง : MP3, WMA, AAC, AAC+, eAAC+
- ออดิโอสตรีมมิ่ง
วิทยุ FM Radio
ช่องเสียงชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร (3.5 mm Nokia AV connector)
รองรับ VoIP โทรศัพท์อินเตอร์เน็ต
สนทนาพร้อมกันหลายสาย (Conference calling)
โทรออกด้วยเสียง, คำสั่งเสียง (Voice function)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
บันทึกเสียง (Voice recorder)
โปรแกรมอ่านเอกสาร (Quick Office editors )
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
โปรแกรมแปลภาษา (Dictionary)
นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาโลก เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, จดบันทึก, จัดการไฟล์
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh (BL-4U)
เปิดรอรับสาย 300 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 270 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 5.2 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 4.2 ชั่วโมง
- ระบบ WLAN 7.8 ชั่วโมง
สนทนาผ่านกล้อง 2.3 ชั่วโมง (Video calling time)
บันทึกวีดีโอต่อเนื่อง 2.7 ชั่วโมง (Video recording)
เล่นวีดีโอต่อเนื่อง 5.8 ชั่วโมง (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง (Music playback time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 6.5 ชั่วโมง (Web browsing)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 5730 Xpress Music [PIC & VOTE]
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia 5730 Xpress Music - รายละเอียด : Product Page [ENG SITE]
Nokia 5730 Xpress Music
ขนาด : 112 x 51 x 15.4 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 135 กรัม
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5730 Xpress Music - โนเกีย 5730
- Play, Share, Chat -
เปิดตัวครั้งแรก 12 มีนาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (กรกฎาคม 52)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 12,390 บาท (กรกฎาคม 52)
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ WCDMA - 900/1900/2100 MHz - HSDPA 3.6 Mbps
- Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 16 ล้านสี - 240 x 320 พิกเซล (2.4")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
- แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
Nokia 5730 Xpress Music
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS เวอร์ชั่น 9.3 - S60 3.2 edition
เสียงเรียกเข้า Video, MP3, 64 Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 100 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- หน่วยความจำ 128 MB SDRAM/256 NAND Flash (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสุด 16 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 2,000 รายชื่อ (Phonebook)
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ 2.0 Bluetooth™ , USB 2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต WAP 2.0 Browser
- สนับสนุน Flash Lite 2.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP4, POP3, SMTP)
- MMS, EMS, SMS AMS ผ่าน 3G, HSDPA, EDGE, GPRS, HSCSD Class 32
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0, CLDC1.1
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Nokia Maps 2.0
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Carl Zeiss optics)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048x1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 8 เท่า (8x Digital zoom)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ระยะโฟกัส 10 เซนติเมตรขึ้นไป
- แฟลช LED ให้แสงได้ดีในระยะ 1 เมตร พร้อมฟังก์ชั่นลบจุดตาแดง
- สมดุลแสงสีขาว (Automatic, Sunny, Cloudy, Incandescent, Fluorescent)
- โทนสี (Normal, Sepia, Vivid, Negative, Grayscale)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ขนาดวีดีโอ 640 x 480 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- ขนาดวีดีโอ 320 x 240 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- ขนาดวีดีโอ 176 x 144 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
- ซูมดิจิตอล 2 เท่า (2x Digital zoom)
- สมดุลแสงสีขาว (Automatic, Sunny, Incandescent, Fluorescent)
- โหมดฉาก (Automatic, Night)
- โทนสี (Normal, Sepia, Black & white, Vivid, Negative)
กล้องตัวที่สอง VGA รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
- บันทึกวีดีโอ ความละเอียด 173 x 144 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : Flash Lite 2, MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : 3GP
เครื่องเล่นเพลง : MP3, WMA, AAC, AAC+, eAAC+
- ออดิโอสตรีมมิ่ง
วิทยุ FM Radio
ช่องเสียงชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร (3.5 mm Nokia AV connector)
รองรับ VoIP โทรศัพท์อินเตอร์เน็ต
สนทนาพร้อมกันหลายสาย (Conference calling)
โทรออกด้วยเสียง, คำสั่งเสียง (Voice function)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
บันทึกเสียง (Voice recorder)
โปรแกรมอ่านเอกสาร (Quick Office editors )
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
โปรแกรมแปลภาษา (Dictionary)
นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาโลก เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, จดบันทึก, จัดการไฟล์
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh (BL-4U)
เปิดรอรับสาย 300 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 270 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 5.2 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 4.2 ชั่วโมง
- ระบบ WLAN 7.8 ชั่วโมง
สนทนาผ่านกล้อง 2.3 ชั่วโมง (Video calling time)
บันทึกวีดีโอต่อเนื่อง 2.7 ชั่วโมง (Video recording)
เล่นวีดีโอต่อเนื่อง 5.8 ชั่วโมง (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง (Music playback time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 6.5 ชั่วโมง (Web browsing)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 5730 Xpress Music [PIC & VOTE]
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia 5730 Xpress Music - รายละเอียด : Product Page [ENG SITE]
Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
- สนุกกับระบบสัมผัสพร้อมชื่นชมความงาม -
- Play, touch, admire. -
เปิดตัวครั้งแรก 15 มิถุนายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (กันยายน 52)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 9,250 บาท (กันยายน 52)
Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอสัมผัส 16.7 ล้านสี - 640 x 360 พิกเซล (2.9")
- ระบบจดจำลายมือ (Handwriting recognition)
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS - S60 5th edition
เสียงเรียกเข้า Video, MP3, AAC, 64 Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 70 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 16 GB
Nokia 5530 XpressMusic - Video Preview
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , Micro-USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MTP (Mobile Transfer Protocol)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, WAP 2.0 Browser
- สนับสนุน Flash Lite 2.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
- รองรับ Friendster, Hi5, Facebook, MySpace, Amazon, YouTube
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP/SMTP), MMS, SMS
- ข้อความคลิปเสียง Nokia Xpress Audio
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
ผ่าน EDGE, GPRS Multi Slot Class 32, CSD, HSCSD
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0, CLDC 1.1
Nokia 5530 XpressMusic - Video Promo
จุดเด่น (Feature)
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Carl Zeiss optics)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Digital camera)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- โหมดการใช้แฟลช: เปิด, ปิด, อัตโนมัติ, ลดการสะท้อนตาแดง
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แสงจ้า, เมฆหนา, แสงไฟทังสเตน และ แสงไฟนีออน
- ปรับโทนสีภาพ : ขาว/ดำ, ซีเปีย, จ้า, เนกาทีฟ
- โหมดฉาก : อัตโนมัติ, ผู้ใช้กำหนด, โหมดระยะใกล้, แนวตั้ง, แนวนอน, กีฬา, กลางคืน และ แนวตั้งกลางคืน
- ปริมาณการรับแสง -2 ถึง +2
- ความเข้มของแสง -4 ถึง +4
- ความไวแสง : อัตโนมัติ, สูง, ปานกลาง, ต่ำ
- ความคมชัด : ปกติ, อ่อน, เข้ม
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ (Self-timer)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- 640 x 352 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 320 x 240 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 320 x 240 พิกเซล, 15 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 176 x 144 พิกเซล, 15 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ 3GP
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แสงจ้า, เมฆหนา, แสงไฟทังสเตน และ แสงไฟนีออน
- ปรับโทนสีภาพ : ขาว/ดำ, ซีเปีย, จ้า, เนกาทีฟ
- โหมดฉาก : อัตโนมัติ, แสงน้อย และ กลางคืน
- บันทึกวิดีโอในรูปแบบไฟล์ : MPEG4, 3GP
โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ และ ตัดต่อวีดีโอ (Image & Video Editor)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : 3GP, RM
เครื่องเล่นเพลง MP3 Player
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, SpMidi, AAC AAC+, eAAC+ และ WMA
วิทยุ FM Stereo
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ลำโพงเสียง ระบบสเตอริโอ 3 มิติ
เกมส์ : Bounce, Global Race, Raging Thunder
สนทนาพร้อมกันหลายสาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
คำสั่งเสียง, โทรออก, บันทึกเสียง (Voice function)
ทางลัดโทรด่วน แสดงรูปภาพผู้โทร 20 รายชื่อ (Contacts Bar)
นาฬิกาปลุก, ปฏทิน, เครื่องคิดเลข, แปลงหน่วย, จดบันทึก
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh (BL-4U)
เปิดรอรับสาย 351 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 294 นาที (Talk Time)
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 225 นาที (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 27 ชั่วโมง (Music playback time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 5530 Xpress [PIC & VOTE]
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia 5530 Xpress Music - รายละเอียด : Product Page [ENG SITE]
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
- สนุกกับระบบสัมผัสพร้อมชื่นชมความงาม -
- Play, touch, admire. -
เปิดตัวครั้งแรก 15 มิถุนายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (กันยายน 52)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 9,250 บาท (กันยายน 52)
Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
Nokia 5530 Xpress Music - โนเกีย
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอสัมผัส 16.7 ล้านสี - 640 x 360 พิกเซล (2.9")
- ระบบจดจำลายมือ (Handwriting recognition)
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS - S60 5th edition
เสียงเรียกเข้า Video, MP3, AAC, 64 Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 70 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 16 GB
Nokia 5530 XpressMusic - Video Preview
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , Micro-USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MTP (Mobile Transfer Protocol)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, WAP 2.0 Browser
- สนับสนุน Flash Lite 2.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
- รองรับ Friendster, Hi5, Facebook, MySpace, Amazon, YouTube
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP/SMTP), MMS, SMS
- ข้อความคลิปเสียง Nokia Xpress Audio
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
ผ่าน EDGE, GPRS Multi Slot Class 32, CSD, HSCSD
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0, CLDC 1.1
Nokia 5530 XpressMusic - Video Promo
จุดเด่น (Feature)
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Carl Zeiss optics)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Digital camera)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- โหมดการใช้แฟลช: เปิด, ปิด, อัตโนมัติ, ลดการสะท้อนตาแดง
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แสงจ้า, เมฆหนา, แสงไฟทังสเตน และ แสงไฟนีออน
- ปรับโทนสีภาพ : ขาว/ดำ, ซีเปีย, จ้า, เนกาทีฟ
- โหมดฉาก : อัตโนมัติ, ผู้ใช้กำหนด, โหมดระยะใกล้, แนวตั้ง, แนวนอน, กีฬา, กลางคืน และ แนวตั้งกลางคืน
- ปริมาณการรับแสง -2 ถึง +2
- ความเข้มของแสง -4 ถึง +4
- ความไวแสง : อัตโนมัติ, สูง, ปานกลาง, ต่ำ
- ความคมชัด : ปกติ, อ่อน, เข้ม
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ (Self-timer)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- 640 x 352 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 320 x 240 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 320 x 240 พิกเซล, 15 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ MP4
- 176 x 144 พิกเซล, 15 เฟรมต่อวินาที รูปแบบไฟล์ 3GP
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แสงจ้า, เมฆหนา, แสงไฟทังสเตน และ แสงไฟนีออน
- ปรับโทนสีภาพ : ขาว/ดำ, ซีเปีย, จ้า, เนกาทีฟ
- โหมดฉาก : อัตโนมัติ, แสงน้อย และ กลางคืน
- บันทึกวิดีโอในรูปแบบไฟล์ : MPEG4, 3GP
โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ และ ตัดต่อวีดีโอ (Image & Video Editor)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : 3GP, RM
เครื่องเล่นเพลง MP3 Player
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, SpMidi, AAC AAC+, eAAC+ และ WMA
วิทยุ FM Stereo
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ลำโพงเสียง ระบบสเตอริโอ 3 มิติ
เกมส์ : Bounce, Global Race, Raging Thunder
สนทนาพร้อมกันหลายสาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
คำสั่งเสียง, โทรออก, บันทึกเสียง (Voice function)
ทางลัดโทรด่วน แสดงรูปภาพผู้โทร 20 รายชื่อ (Contacts Bar)
นาฬิกาปลุก, ปฏทิน, เครื่องคิดเลข, แปลงหน่วย, จดบันทึก
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,000 mAh (BL-4U)
เปิดรอรับสาย 351 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 294 นาที (Talk Time)
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 225 นาที (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 27 ชั่วโมง (Music playback time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 5530 Xpress [PIC & VOTE]
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia 5530 Xpress Music - รายละเอียด : Product Page [ENG SITE]
ข้อมูลทั่วไป Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
ข้อมูลทั่วไป Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
- Built to last. Great for sharing your adventures! -
เปิดตัวครั้งแรก 10 กรกฏาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 6,000 บาท (€125 ยูโร)
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Triband (GSM 900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 16.7 ล้านสี - 240 x 320 พิกเซล (2.2")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
เสียงเรียกเข้า Video, MP3, 64 Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 20 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 2,000 รายชื่อ (Phonebook)
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ 2.1 - Bluetooth™ , USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (Bluetooth stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML, WML, HTTP, WAP Browser
- รองรับบราวเซอร์ Opera Mini, OSS
- รองรับแอพพลิเคชั่น Flash Lite 2.0, Nokia Mobile Search
- โมเด็มในตัว (Build-In Modem)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP/SMTP)
- ข้อความแชท - Windows Live (MSN), OMA IM
- รองรับการใช้งาน Ovi Share
- MMS, SMS ผ่าน CSD, HSCSD, EDGE, GPRS Class 11
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (External GPS receiver)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Nokia Maps 2.0
กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- ขนาดภาพสูงสุด 1600x1200 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- โหมดการใช้แฟลช: เปิด, ปิด, อัตโนมัติ
- ปรับโทนสีภาพ : Normal, False colours, Greyscale, Sepia, Negative และ Solarise
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว : Automatic, Daylight, Tungsten และ Fluorescent
Nokia 3720 Classic
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ขนาดวีดีโอ QCIF (176 x 144 พิกเซล), 11 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
เครื่องเล่นวีดีโอ : H263, MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : H263, MP4, 3GP
เครื่องเล่นเพลง (Music Player) , วิทยุ FM Radio
- รองรับไฟล์เสียง : .MP3, .MP4, .WMA, .AAC, AAC+, eAAC+
ป้องกันละอองน้ำ,ฝุ่น และการสั่นสะเทือน (Resist water, dust and shock)
ไฟฉายส่องสว่าง (Flash Light)
เกมส์ : Bounce Tales, Sudoku, Backgammon II, Brain Champion, Block'd
สนทนาพร้อมกัน สูงสุด 6 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
โทรออก, บันทึกเสียง, คำสั่งเสียง (Voice function)
นาฬิกาปลุก, นับถอยหลัง, จับเวลา, เครื่องคิดเลข, แปลงหน่วย
ปฏิทิน, นาฬิกา, สิ่งที่ต้องทำ, จดบันทึก
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,050 mAh (BL-5CT)
เปิดรอรับสาย 450 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง 30 นาที (Talk Time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 14.5 ชั่วโมง (Music Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 3720 Classic [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
- Built to last. Great for sharing your adventures! -
เปิดตัวครั้งแรก 10 กรกฏาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 6,000 บาท (€125 ยูโร)
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Triband (GSM 900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 16.7 ล้านสี - 240 x 320 พิกเซล (2.2")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
Nokia 3720 Classic - โนเกีย 3720 Classic
เสียงเรียกเข้า Video, MP3, 64 Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 20 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 2,000 รายชื่อ (Phonebook)
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ 2.1 - Bluetooth™ , USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (Bluetooth stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML, WML, HTTP, WAP Browser
- รองรับบราวเซอร์ Opera Mini, OSS
- รองรับแอพพลิเคชั่น Flash Lite 2.0, Nokia Mobile Search
- โมเด็มในตัว (Build-In Modem)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP/SMTP)
- ข้อความแชท - Windows Live (MSN), OMA IM
- รองรับการใช้งาน Ovi Share
- MMS, SMS ผ่าน CSD, HSCSD, EDGE, GPRS Class 11
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (External GPS receiver)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Nokia Maps 2.0
กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- ขนาดภาพสูงสุด 1600x1200 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- โหมดการใช้แฟลช: เปิด, ปิด, อัตโนมัติ
- ปรับโทนสีภาพ : Normal, False colours, Greyscale, Sepia, Negative และ Solarise
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว : Automatic, Daylight, Tungsten และ Fluorescent
Nokia 3720 Classic
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ขนาดวีดีโอ QCIF (176 x 144 พิกเซล), 11 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
เครื่องเล่นวีดีโอ : H263, MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : H263, MP4, 3GP
เครื่องเล่นเพลง (Music Player) , วิทยุ FM Radio
- รองรับไฟล์เสียง : .MP3, .MP4, .WMA, .AAC, AAC+, eAAC+
ป้องกันละอองน้ำ,ฝุ่น และการสั่นสะเทือน (Resist water, dust and shock)
ไฟฉายส่องสว่าง (Flash Light)
เกมส์ : Bounce Tales, Sudoku, Backgammon II, Brain Champion, Block'd
สนทนาพร้อมกัน สูงสุด 6 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
โทรออก, บันทึกเสียง, คำสั่งเสียง (Voice function)
นาฬิกาปลุก, นับถอยหลัง, จับเวลา, เครื่องคิดเลข, แปลงหน่วย
ปฏิทิน, นาฬิกา, สิ่งที่ต้องทำ, จดบันทึก
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,050 mAh (BL-5CT)
เปิดรอรับสาย 450 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง 30 นาที (Talk Time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 14.5 ชั่วโมง (Music Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 3720 Classic [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
ข้อมูลทั่วไป Nokia 6760 Slide
ข้อมูลทั่วไป Nokia 6760 Slide - โนเกีย 6760 Slide
- Be mobile. Be in touch -
เปิดตัวครั้งแรก 23 กรกฎาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ
ข้อมูลทั่วไป Nokia 6760 Slide
ขนาด : 97.6 x 58 x 15.6 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 124.3 กรัม
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ WCDMA - 900/2100 MHz - HSDPA 3.6 Mbps
- Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 16 ล้านสี - 320 x 240 พิกเซล (2.4")
- ตรวจจับแสง ปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light detector)
- ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation sensor)
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
- แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS เวอร์ชั่น 9.3 - S60 3rd edition
เสียงเรียกเข้า AAC, MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 120 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)
- แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)
มี 3 สี ให้เลือก (Colours) : ดำ (ฺฺฺBlack), แดง (Redy), ขาว (White)
Nokia 6760 Slide Surge
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- UPnP (Universal Plug and Play)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , Micro-USB (USB 2.0)
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MTP (Mobile Transfer Protocol)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, Opera 8, WAP 2.0 Browser
- สนับสนุน Flash Lite 2.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
- รองรับ JavaScript™ 1.3, 1.5
- โมเด็มในตัว (Build-In Modem)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP4/POP3/SMTP), MMS, SMS
- Nokia Messaging 1.1 (Ovi Mail, Hotmail, Yahoo, Gmail)
- ข้อความแชท - Ovi Chat, Windows Live IM 1.5, Google Talk
ผ่าน 3G, CSD, HSCSD, HSDPA, EDGE, GPRS Class 32
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP™ 2.0, CLDC 1.1
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Integrated A-GPS)
- รองรับแผนที่ Nokia Maps 3.0
กล้องดิจิตอล CMOS 3.2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048x1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- สมดุลแสงสีขาว (Automatic, Sunny, Cloudy, Incandescent, Fluorescent)
- โทนสี (Normal, Sepia, Black & White, Negative)
- โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ (Image Editor)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ขนาดวีดีโอ 320 x 240 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : Auto, Sunny, Incandescent, Fluorescent
- โทนสี (Normal, Sepia, Black & White, Vivid, Negative)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : H.264, H.263, RealVideo 10, WMV 9, MPEG4
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : MPEG4
เครื่องเล่นเพลง MP3 Player
- รองรับไฟล์เสียง : AAC, AAC+ v1, AAC+ v2, AMR-WB, WAV, MP3, WMA 9 และ RealAudio10
วิทยุ FM Radio
สนทนาพร้อมกันสูงสุด 6 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
คำสั่งเสียง, โทรออก, บันทึกเสียง (Voice function)
โปรแกรมอ่าน/แก้ไขเอกสาร (Quick Office)
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
โปรแกรมจัดการข้อมูลบีบอัด (ZIP Manager)
โปรแกรมแปลภาษา Mobile Dictionary
เกมส์ : Asphalt 4, Marble Cannon
เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาโลก, จดบันทึก
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (BP-4L)
เปิดรอรับสาย 500 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 500 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 4 ชั่วโมง
ฟังเพลงต่อเนื่อง 17 ชั่วโมง (Music Time)
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง (Video playback time)
บันทึกวีดีโอนานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง (Video recording time)
เล่นเกมส์นานต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง (Gaming time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 7 ชั่วโมง (Web browsing)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 6760 Slide [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
- Be mobile. Be in touch -
เปิดตัวครั้งแรก 23 กรกฎาคม 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ
ข้อมูลทั่วไป Nokia 6760 Slide
ขนาด : 97.6 x 58 x 15.6 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 124.3 กรัม
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ WCDMA - 900/2100 MHz - HSDPA 3.6 Mbps
- Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 16 ล้านสี - 320 x 240 พิกเซล (2.4")
- ตรวจจับแสง ปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light detector)
- ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation sensor)
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
- แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS เวอร์ชั่น 9.3 - S60 3rd edition
เสียงเรียกเข้า AAC, MP3, Polyphonic
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 120 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 8 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)
- แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)
มี 3 สี ให้เลือก (Colours) : ดำ (ฺฺฺBlack), แดง (Redy), ขาว (White)
Nokia 6760 Slide Surge
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- UPnP (Universal Plug and Play)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , Micro-USB (USB 2.0)
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MTP (Mobile Transfer Protocol)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, Opera 8, WAP 2.0 Browser
- สนับสนุน Flash Lite 2.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
- รองรับ JavaScript™ 1.3, 1.5
- โมเด็มในตัว (Build-In Modem)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP4/POP3/SMTP), MMS, SMS
- Nokia Messaging 1.1 (Ovi Mail, Hotmail, Yahoo, Gmail)
- ข้อความแชท - Ovi Chat, Windows Live IM 1.5, Google Talk
ผ่าน 3G, CSD, HSCSD, HSDPA, EDGE, GPRS Class 32
- อ่านออกเสียงข้อความ Text-to-speech
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP™ 2.0, CLDC 1.1
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Integrated A-GPS)
- รองรับแผนที่ Nokia Maps 3.0
กล้องดิจิตอล CMOS 3.2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048x1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- สมดุลแสงสีขาว (Automatic, Sunny, Cloudy, Incandescent, Fluorescent)
- โทนสี (Normal, Sepia, Black & White, Negative)
- โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ (Image Editor)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ขนาดวีดีโอ 320 x 240 พิกเซล , 15 เฟรมต่อวินาที
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- รูปแบบไฟล์ : MP4 และ 3GP (Video format)
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : Auto, Sunny, Incandescent, Fluorescent
- โทนสี (Normal, Sepia, Black & White, Vivid, Negative)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : H.264, H.263, RealVideo 10, WMV 9, MPEG4
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : MPEG4
เครื่องเล่นเพลง MP3 Player
- รองรับไฟล์เสียง : AAC, AAC+ v1, AAC+ v2, AMR-WB, WAV, MP3, WMA 9 และ RealAudio10
วิทยุ FM Radio
สนทนาพร้อมกันสูงสุด 6 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
คำสั่งเสียง, โทรออก, บันทึกเสียง (Voice function)
โปรแกรมอ่าน/แก้ไขเอกสาร (Quick Office)
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
โปรแกรมจัดการข้อมูลบีบอัด (ZIP Manager)
โปรแกรมแปลภาษา Mobile Dictionary
เกมส์ : Asphalt 4, Marble Cannon
เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาโลก, จดบันทึก
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (BP-4L)
เปิดรอรับสาย 500 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 500 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 4 ชั่วโมง
ฟังเพลงต่อเนื่อง 17 ชั่วโมง (Music Time)
ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง (Video playback time)
บันทึกวีดีโอนานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง (Video recording time)
เล่นเกมส์นานต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง (Gaming time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 7 ชั่วโมง (Web browsing)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 6760 Slide [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
- Touch Play Navigate -
Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
ขนาด : 111 x 51.7 x 15.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 109 กรัม
Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
- Touch Play Navigate -
เปิดตัวครั้งแรก 25 สิงหาคม 2008 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 13,850 บาท (€285 ยูโร)
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 900/2100 MHz , HSDPA 3.6 Mbps
จอสัมผัส 16 ล้านสี - 640 x 360 พิกเซล (nHD) กว้าง 3.2"
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS เวอร์ชั่น 9.4 - S60 5th edition
ปุ่มกดและวิธีป้อนข้อความ
- สามารถใช้ปากกาสไตลัส และรองรับการสัมผัสด้วยนิ้วมือ สำหรับป้อนข้อความ และควบคุมการใช้งาน (แป้นพิมพ์ตัวอักษร และตัวเลข คีย์บอร์ดแบบ qwerty ชนิดเต็มรูปแบบหรือแบบย่อ เขียนข้อความด้วยลายมือ)
- แถบเครื่องมือมีเดียระบบสัมผัสเฉพาะ สำหรับการเข้าถึงเพลง แกลลอรี่ แบ่งปันแบบออนไลน์ วิดีโอเซ็นเตอร์ และ เว็บเบราเซอร์
- สั่งงานด้วยเสียง (Voice commands)
- ปุ่มกดสำหรับการเปิดแอพพลิเคชั่น (ปุ่มเมนู), โทรออก และ วางสาย เปิด/ปิดเครื่อง ถ่ายภาพ ล็อค ปรับระดับเสียง
เสียงเรียกเข้า 3D Stereo Ringtones, 64 Polyphonic, MP3 และ Video Ringtones
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 81 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 16 GB
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WLAN 802.11b, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , Micro-USB v2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MTP (Mobile Transfer Protocol)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML, XHTML, WML, HTTP, JavaScript, WAP 2.0 Browser
- เว็บบราวเซอร์ OSS (Web Browser)
- รองรับ Nokia Search
- สนับสนุน Flash Lite 3.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP/SMTP), MMS, SMS
- ข้อความคลิปเสียง Nokia Xpress Audio
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS Multi Slot Class 32, HSCSD, CSD
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Nokia Ovi Maps
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Carl Zeiss optics)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 3 เท่า, ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- โหมดการใช้แฟลช: เปิด, ปิด, อัตโนมัติ, ลดการสะท้อนตาแดง
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แดดจัด, เมฆครึ้ม, แสงจากหลอดไส้, แสงจากหลอดนีออน
- ปรับโทนสีภาพ : ปกติ, ซีเปีย, ขาว-ดำ, เนกาทีฟ, สว่าง
- ปรับค่าชดเชยแสง EV -2 ถึง +2
- โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ (Photo Editor)
- สั่งพิมพ์ภาพโดยตรง (Direct printing )
กล้องตัวที่สอง QCIF - 176 x 144 พิกเซล (Front camera)
- รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด 640 x 352 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล, 15 หรือ 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล, 15 เฟรมต่อวินาที
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ระยะเวลาในการบันทึก 90 นาที
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แดดจัด, เมฆครึ้ม, แสงจากหลอดไส้, แสงจากหลอดนีออน
- โหมดฉาก : อัตโนมัติ, กลางคืน
- ปรับโทนสีภาพ : ปกติ, ซีเปีย, ขาว-ดำ, เนกาทีฟ, สว่าง
- บันทึกวิดีโอในรูปแบบไฟล์ : MPEG4, 3GP
- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editor)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : WMV, MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล : 3GP
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, SpMidi, AAC, AAC+, eAAC+ และ WMA
วิทยุ FM Stereo
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
สนทนาพร้อมกัน สูงสุด 6 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
คำสั่งเสียง, โทรออก (Voice function)
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
- รองรับไฟล์เสียง : AMR, NB-AMR, FR, EFR
เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, นาฬิกาปลุก, จดบันทึก, นับถอยหลัง
เกมส์ : 3D Bounce และ Global Race
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
Nokia 5800 XpressMusic Tube review
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,320 mAh (BL-5J)
เปิดรอรับสาย 406 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 400 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 8.8 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 5 ชั่วโมง
- ระบบ WLAN 7.8 ชั่วโมง
สนทนาผ่านกล้อง 3 ชั่วโมง (Video calling time)
บันทึกวีดีโอต่อเนื่อง 3.6 ชั่วโมง (Video recording)
เล่นวีดีโอต่อเนื่อง 5.2 ชั่วโมง (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 35 ชั่วโมง (Music playback time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 3.4 ชั่วโมง (Web browsing)
เล่นเกมส์ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง 30 นาที (Gaming time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 5800 Navigation [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia 5800 Navigation Product Page [ENG SITE]
- Touch Play Navigate -
Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
ขนาด : 111 x 51.7 x 15.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 109 กรัม
Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
ข้อมูลทั่วไป Nokia 5800 Navigation Edition - โนเกีย 5800
- Touch Play Navigate -
เปิดตัวครั้งแรก 25 สิงหาคม 2008 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 13,850 บาท (€285 ยูโร)
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 900/2100 MHz , HSDPA 3.6 Mbps
จอสัมผัส 16 ล้านสี - 640 x 360 พิกเซล (nHD) กว้าง 3.2"
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
ระบบปฏิบัติการ : Symbian OS เวอร์ชั่น 9.4 - S60 5th edition
ปุ่มกดและวิธีป้อนข้อความ
- สามารถใช้ปากกาสไตลัส และรองรับการสัมผัสด้วยนิ้วมือ สำหรับป้อนข้อความ และควบคุมการใช้งาน (แป้นพิมพ์ตัวอักษร และตัวเลข คีย์บอร์ดแบบ qwerty ชนิดเต็มรูปแบบหรือแบบย่อ เขียนข้อความด้วยลายมือ)
- แถบเครื่องมือมีเดียระบบสัมผัสเฉพาะ สำหรับการเข้าถึงเพลง แกลลอรี่ แบ่งปันแบบออนไลน์ วิดีโอเซ็นเตอร์ และ เว็บเบราเซอร์
- สั่งงานด้วยเสียง (Voice commands)
- ปุ่มกดสำหรับการเปิดแอพพลิเคชั่น (ปุ่มเมนู), โทรออก และ วางสาย เปิด/ปิดเครื่อง ถ่ายภาพ ล็อค ปรับระดับเสียง
เสียงเรียกเข้า 3D Stereo Ringtones, 64 Polyphonic, MP3 และ Video Ringtones
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 81 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 16 GB
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WLAN 802.11b, WLAN (Wireless LAN)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , Micro-USB v2.0
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MTP (Mobile Transfer Protocol)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML, XHTML, WML, HTTP, JavaScript, WAP 2.0 Browser
- เว็บบราวเซอร์ OSS (Web Browser)
- รองรับ Nokia Search
- สนับสนุน Flash Lite 3.0 รับชม Flash Video ผ่านบราวเซอร์
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP/SMTP), MMS, SMS
- ข้อความคลิปเสียง Nokia Xpress Audio
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS Multi Slot Class 32, HSCSD, CSD
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Nokia Ovi Maps
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Carl Zeiss optics)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Image size)
- ซูมดิจิตอล 3 เท่า, ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- โหมดการใช้แฟลช: เปิด, ปิด, อัตโนมัติ, ลดการสะท้อนตาแดง
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แดดจัด, เมฆครึ้ม, แสงจากหลอดไส้, แสงจากหลอดนีออน
- ปรับโทนสีภาพ : ปกติ, ซีเปีย, ขาว-ดำ, เนกาทีฟ, สว่าง
- ปรับค่าชดเชยแสง EV -2 ถึง +2
- โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ (Photo Editor)
- สั่งพิมพ์ภาพโดยตรง (Direct printing )
กล้องตัวที่สอง QCIF - 176 x 144 พิกเซล (Front camera)
- รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด 640 x 352 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล, 15 หรือ 30 เฟรมต่อวินาที
- ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล, 15 เฟรมต่อวินาที
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ระยะเวลาในการบันทึก 90 นาที
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : อัตโนมัติ, แดดจัด, เมฆครึ้ม, แสงจากหลอดไส้, แสงจากหลอดนีออน
- โหมดฉาก : อัตโนมัติ, กลางคืน
- ปรับโทนสีภาพ : ปกติ, ซีเปีย, ขาว-ดำ, เนกาทีฟ, สว่าง
- บันทึกวิดีโอในรูปแบบไฟล์ : MPEG4, 3GP
- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editor)
เครื่องเล่นวีดีโอ (RealPlayer) : WMV, MP4, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล : 3GP
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, SpMidi, AAC, AAC+, eAAC+ และ WMA
วิทยุ FM Stereo
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
สนทนาพร้อมกัน สูงสุด 6 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
คำสั่งเสียง, โทรออก (Voice function)
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
- รองรับไฟล์เสียง : AMR, NB-AMR, FR, EFR
เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, สิ่งที่ต้องทำ, แปลงหน่วย, นาฬิกาปลุก, จดบันทึก, นับถอยหลัง
เกมส์ : 3D Bounce และ Global Race
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
Nokia 5800 XpressMusic Tube review
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,320 mAh (BL-5J)
เปิดรอรับสาย 406 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 400 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 8.8 ชั่วโมง (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 5 ชั่วโมง
- ระบบ WLAN 7.8 ชั่วโมง
สนทนาผ่านกล้อง 3 ชั่วโมง (Video calling time)
บันทึกวีดีโอต่อเนื่อง 3.6 ชั่วโมง (Video recording)
เล่นวีดีโอต่อเนื่อง 5.2 ชั่วโมง (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 35 ชั่วโมง (Music playback time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 3.4 ชั่วโมง (Web browsing)
เล่นเกมส์ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง 30 นาที (Gaming time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 5800 Navigation [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia 5800 Navigation Product Page [ENG SITE]
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900 - โนเกีย N900
เปิดตัวครั้งแรก 2 กันยายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 24,450 บาท (€500 ยูโร)
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 900/1700/2100 MHz
จอสัมผัส 800 x 480 พิกเซล (3.5")
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
- แสดงผลกราฟฟิค 3 มิติ สนับสนุน OpenGL ES 2.0
- ปรับรูปแบบการใช้งานส่วนตัว สูงสุด 4 แบบ
- เซนเซอร์จับแสง ปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light sensor)
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
ระบบปฏิบัติการ Maemo 5 บนพื้นฐาน Linux
- แสดงผลในรูปแบบ 3 มิติ
- ทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน (Multi-window - Multi-tasking)
- CPU : TI OMAP 3430 - ARM Cortex-A8, 600 MHz
เสียงเรียกเข้า WAV, MP3, AAC, eAAC, WMA
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 32 GB (ตัวเครื่อง)
- 256 MB RAM, 768 MB virtual memory
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 16 GB
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WLAN 802.11b/g และ UPnP (Universal Plug and Play)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1 , Micro-USB (USB 2.0), TV-out
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MS Outlook ซิงโครไนซ์ รายชื่อ, ปฏิทิน และ จดบันทึก
- โมเด็มในตัว (Build-In Modem)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML, XHTML, CSS
- รองรับบราวเซอร์ Maemo (Mozilla technology)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Adobe® Flash® Player 9.4
- สนับสนุน AJAX (Javascript 1.8, XML)
รับ-ส่งข้อมูล (Data Network)
- GPRS Class 32 ความเร็วสูงสุด 107/64.2 kbps (DL/UL)
- EDGE Class 32 ความเร็วสูงสุด 296/177.6 kbps (DL/UL)
- WCDMA ความเร็วสูงสุด 384/384 kbps (DL/UL)
- HSPA ความเร็วสูงสุด 10/2 (DL/UL)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP3/SMTP)
- SMS, ข้อความแชท (Instant Messaging)
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Integrated A-GPS)
- รองรับแผนที่ Ovi Maps
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Carl Zeiss optics)
- แฟลช LED สองดวง
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ซูมดิจิตอล 3 เท่า (3x digital zoom)
- ระยะโฟกัส 10 เซนติเมตรขึ้นไป
- อัลบั้มรูปภาพ, โปรแกรมตกแต่งรูปถ่าย
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging)
กล้องตัวที่สอง VGA ใช้งานเป็น Web Camera
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 800x480 พิกเซล, 25 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ MPEG4
เครื่องเล่นเพลง (Maemo media player)
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, WMA, AAC, eAAC, M4A และ WAV
- ออดิโอสตรีมมิ่ง (UPnP music streaming)
- แสดงข้อมูล ID3 หน้าปกอัลบั้ม, บิทเรทสูงสุด 320 kbps
วิทยุ FM Stereo และ Visual Radio
- FM Trasmitter ส่งสัญญาณวิทยุเอ็ฟเอ็ม
ช่องเชื่อมต่อชุดหูฟังสเตอริโอ ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ลำโพงเสียงสเตอริโอ (Stereo speakers)
เครื่องเล่นวีดีโอ
- รองรับไฟล์วีดีโอ : MP4, AVI, WMV, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : AVI, MP4, WMV, ASF และ 3GP
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
โทรศัพท์อินเตอร์เน็ต (VoIP)
สนทนาพร้อมกัน สูงสุด 3 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
ปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, จดบันทึก, จัดการไฟล์, เกมส์, วิดเจ็ต
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1,320 mAh (BL-5J)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia N900 [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
เปิดตัวครั้งแรก 2 กันยายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ประมาณ 24,450 บาท (€500 ยูโร)
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 900/1700/2100 MHz
จอสัมผัส 800 x 480 พิกเซล (3.5")
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
- แสดงผลกราฟฟิค 3 มิติ สนับสนุน OpenGL ES 2.0
- ปรับรูปแบบการใช้งานส่วนตัว สูงสุด 4 แบบ
- เซนเซอร์จับแสง ปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light sensor)
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY สไลด์ออกด้านข้าง
ระบบปฏิบัติการ Maemo 5 บนพื้นฐาน Linux
- แสดงผลในรูปแบบ 3 มิติ
- ทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกัน (Multi-window - Multi-tasking)
- CPU : TI OMAP 3430 - ARM Cortex-A8, 600 MHz
เสียงเรียกเข้า WAV, MP3, AAC, eAAC, WMA
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 32 GB (ตัวเครื่อง)
- 256 MB RAM, 768 MB virtual memory
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 16 GB
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- WLAN 802.11b/g และ UPnP (Universal Plug and Play)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1 , Micro-USB (USB 2.0), TV-out
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
- สนับสนุน MS Outlook ซิงโครไนซ์ รายชื่อ, ปฏิทิน และ จดบันทึก
- โมเด็มในตัว (Build-In Modem)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML, XHTML, CSS
- รองรับบราวเซอร์ Maemo (Mozilla technology)
- รองรับแอพพลิเคชั่น Adobe® Flash® Player 9.4
- สนับสนุน AJAX (Javascript 1.8, XML)
รับ-ส่งข้อมูล (Data Network)
- GPRS Class 32 ความเร็วสูงสุด 107/64.2 kbps (DL/UL)
- EDGE Class 32 ความเร็วสูงสุด 296/177.6 kbps (DL/UL)
- WCDMA ความเร็วสูงสุด 384/384 kbps (DL/UL)
- HSPA ความเร็วสูงสุด 10/2 (DL/UL)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- อีเมล์ Email (IMAP/POP3/SMTP)
- SMS, ข้อความแชท (Instant Messaging)
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Integrated A-GPS)
- รองรับแผนที่ Ovi Maps
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Carl Zeiss optics)
- แฟลช LED สองดวง
- ปรับภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ซูมดิจิตอล 3 เท่า (3x digital zoom)
- ระยะโฟกัส 10 เซนติเมตรขึ้นไป
- อัลบั้มรูปภาพ, โปรแกรมตกแต่งรูปถ่าย
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging)
กล้องตัวที่สอง VGA ใช้งานเป็น Web Camera
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 800x480 พิกเซล, 25 เฟรมต่อวินาที
- รูปแบบไฟล์ MPEG4
เครื่องเล่นเพลง (Maemo media player)
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, WMA, AAC, eAAC, M4A และ WAV
- ออดิโอสตรีมมิ่ง (UPnP music streaming)
- แสดงข้อมูล ID3 หน้าปกอัลบั้ม, บิทเรทสูงสุด 320 kbps
วิทยุ FM Stereo และ Visual Radio
- FM Trasmitter ส่งสัญญาณวิทยุเอ็ฟเอ็ม
ช่องเชื่อมต่อชุดหูฟังสเตอริโอ ขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ลำโพงเสียงสเตอริโอ (Stereo speakers)
เครื่องเล่นวีดีโอ
- รองรับไฟล์วีดีโอ : MP4, AVI, WMV, 3GP
- วีดีโอสตรีมมิ่ง : AVI, MP4, WMV, ASF และ 3GP
โปรแกรมอ่านไฟล์ PDF
โทรศัพท์อินเตอร์เน็ต (VoIP)
สนทนาพร้อมกัน สูงสุด 3 สาย (Conference calling)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
ปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, จดบันทึก, จัดการไฟล์, เกมส์, วิดเจ็ต
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1,320 mAh (BL-5J)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia N900 [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
ข้อมูลทั่วไป Nokia N900
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3 (อังกฤษ: 3G) เป็นมาตรฐานโทรศัพท์มือถือในยุคที่ 3 ถูกพัฒนาและกำลังมาแทนที่ ระบบโทรศัพท์ 2G ซึ่ง 3G นั้นพัฒนาบนพื้นฐานของมาตรฐาน International Mobile Telecommunications 2000, IMT-2000 ภายใต้กลุ่มของ International Telecommunication Union (ITU)
3G นั้น ได้พัฒนามาจาก GPRS และ EDGE ตอนนี้ได้มีในเมืองไทยแล้ว แต่ในของระบบ AIS นั้นจะทำ HSDPA หรือ 3.5G (ระบบ 3G มีใช้เฉพาะที่จังหวัด เชียงใหม่ และ กทม.) โดยขณะนี้ มีแค่ AIS ดีแทค และ ทรูมูฟ เท่านั้นที่ให้บริการ (ดีแทคยังไม่เปิดโดยทั่วไป)
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3 หรือที่เรียกว่า ระบบ UMTS หรือ WCDMA ในระบบ GSM 850 , 900 , 1800 , 1900 และ 2100 (ที่เป็นสากลที่โทรศัพท์ระบบ 3G ต้องมี)
3G คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สาม หรือมาตรฐาน IMT-2000 นั้นนิยามสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า
“ต้องมี แพลทฟอร์ม (Platform) สำหรับการหลอมรวมของบริการต่างๆ อาทิ กิจการประจำที่ (Fixed Service) กิจการเคลื่อนที่ (Mobile Service) บริการสื่อสารเสียง ข้อมูล อินเทอร์เน็ต และ พหุสื่อ (Multimedia) เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” คือ สามารถถ่ายเท ส่งต่อข้อมูล ดิจิตอล ไปยังอุปกรณ์โทรคมนาคมประเภทต่างๆ ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้
“ความสามารถในการใช้โครงข่ายทั่วโลก (Global Roaming) ” คือ ผู้บริโภคสามารถ ถืออุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ไปใช้ได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง
“บริการที่ไม่ขาดตอน (Seamless Delivery Service) ” คือ การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยน เซลล์ไซต์ (Cell Site) เขาใช้คำว่า Seam less นั้นแปลว่า ไร้รอยตะเข็บนะครับ
อัตราความเร็วในการส่งข้อมูล (Transmission Rate) ในมาตรฐาน IMT-2000 นั้นกำหนดไว้ว่าต้องมีอัตราความเร็วดังนี้ [1]
ในสภาวะอยู่กับที่หรือขณะเดิน มีความเร็วอย่างน้อยที่สุด 2 เมกะบิต/วินาที
ในสภาวะเคลื่อนที่โดยยานพาหนะ มีความเร็วอย่างน้อยที่สุด 384 กิโลบิต/วินาที
ทุกสภาวะ มีความเร็วอย่างมากที่สุด 14.4 เมกะบิต/วินาที
จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี 3G
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 (Third Generation Mobile Network หรือ 3G) เป็นเทคโนโลยียุคถัดมาจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 2 หรือ 2G ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจสื่อสารไร้สายอย่างมหาศาลนับตั้งแต่ พ.ศ. 2537 เป็นต้นมา ในยุคของโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G มีมาตรฐานที่สำคัญที่มีการนิยมใช้งานทั่วโลกอยู่ 2 มาตรฐาน กล่าวคือมาตรฐาน GSM (Global System for Mobile Communication) อันเป็นมาตรฐานของกลุ่มสหภาพยุโรป ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกสูงที่สุด และมาตรฐาน CDMA (Code Division Multiple Access) อันเป็นมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่สอง
จุดมุ่งหมายของการพัฒนามาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ขึ้น ก็เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานระบบสื่อสารไร้สายส่วนบุคคล (Personal Communication) ในลักษณะไร้พรมแดน (Global Communication) โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถนำเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปใช้งานในที่ใด ๆ ก็ได้ทั่วโลกที่มีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว และยังเป็นยุคของการนำมาตรฐานสื่อสารแบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบมาใช้รักษาความปลอดภัย และเสริมประสิทธิภาพในการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งข้อความแบบสั้น (Short Message Service หรือ SMS) และการเริ่มต้นของยุคสื่อสารข้อมูลผ่านเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นครั้งแรก โดยมาตรฐาน GSM และ CDMA ตอบสนองความต้องการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูงสุด 9,600 บิตต่อวินาที ซึ่งถือว่าเพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเร็วของการสื่อสารผ่านโมเด็มในเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานเมื่อกว่าสิบปีก่อน
การตอบรับของกลุ่มผู้บริโภคบริการสื่อสารไร้สายทั่วโลก ทำให้มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการณ์ทั่วโลกอย่างมหาศาล ก่อให้เกิดการเปิดสัมปทานและนำมาซึ่งการแข่งขันอย่างรุนแรงในแทบทุกประเทศ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนอกจากจะมีผลทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของผู้ใช้บริการอย่างก้าวกระโดดแล้ว ในขณะเดียวกันยังสร้างผลกระทบต่อรายได้โดยเฉลี่ยต่อเลขหมาย (Average Revenue per User หรือ ARPU) ของผู้ให้บริการเครือข่าย อันเนื่องมาจากการกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา ยิ่งเมื่อมีการเปิดตัวบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพร้อมใช้ (Prepaid Subscriber) ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา ก็ทำให้เกิดการลดถอยของ ARPU ลงอย่างต่อเนื่อง พร้อม กับปัญหาผู้ใช้บริการย้ายค่าย (Brand Switching) ที่รุนแรงขึ้น
เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตราสินค้าและยังเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเพื่อชดเชย ARPU ที่ลดต่ำลง เนื่องจากปรากฏการณ์อิ่มตัวของบริการสื่อสารด้วยเสียง (Voice Service) ผู้ประกอบการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกจึงมีความเห็นตรงกันที่จะสร้างบริการสื่อสารไร้สายรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้น โดยพัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ที่เปิดใช้งานอยู่ ให้มีศักยภาพเพิ่มเติมเพื่อรองรับบริการสื่อสารข้อมูลแบบที่มิใช่เสียง (Non-Voice Communication) พร้อมกับการวางแผนธุรกิจ แผนปฏิบัติการทางวิศวกรรม การตลาด และแผนการลงทุน เพื่อสร้างกระแสความต้องการ (Demand Aggregation) ให้กับฐานลูกค้าผู้ใช้บริการที่มีอยู่เดิม เพื่อเพิ่ม ARPU ให้สูงขึ้น พร้อม ๆ กับผลักดันให้เกิดบริการรูปแบบใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งข้อมูลแบบ EMS (Enhanced Messaging Service) หรือ MMS (Multimedia Messaging Service) รวมถึงบริการท่องโลกอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านอุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งมีทั้งที่เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่ว ๆ ไป อุปกรณ์ไร้สายประเภท PDA (Personal Digital Assistant) และโทรศัพท์เคลื่อนที่อัจฉริยะ (Smart Phone)
เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ที่ได้มีการลงทุนไว้แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด มาตรฐานเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลในรูปแบบใหม่ ๆ จึงถูกกำหนดขึ้น ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาเครือข่ายเดิม ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี HSCSD (High Speed Circuit Switching Data), GPRS (General Packet Radio Service) หรือ EDGE (Enhanced Data Rate for GPRS Evolution) ของค่าย GSM และเทคโนโลยี cdma20001xEV-DV หรือ cdma20001xEV-DO ของค่าย CDMA ดังแสดงพัฒนาการในรูปที่ 1 เรียกมาตรฐานต่อยอดดังกล่าวโดยรวมว่า เทคโนโลยียุค 2.5G/2.75G ซึ่งในช่วงเวลานี้เองที่ปรากฏมีมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ PDC (Packet Digital Cellular) เปิดให้บริการสื่อสารข้อมูลในลักษณะของเทคโนโลยี 2.5G ภายใต้ชื่อเครื่องหมายการค้า i-mode ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดศักราชของการให้บริการสื่อสารข้อมูลแบบมัลติมีเดียไร้สายในประเทศญี่ปุ่น และได้กลายเป็นต้นแบบของการจัดทำธุรกิจ Non-Voice ให้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกในเวลาต่อมา
การเติบโตของธุรกิจ Non-Voice
ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เป็นต้นมาอันเป็นยุคเริ่มต้นของเทคโนโลยี 2.5G ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย มีการผลักดันบริการสื่อสารข้อมูลรูปแบบใหม่ ๆ ในรูปแบบ Non-Voice เพื่อสร้างกระแสนิยมในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 2.5G อย่างเต็มรูปแบบ หรือเป็นการผลักดันให้เกิดการยอมรับในบริการที่มีอยู่แล้ว อันได้แก่บริการ SMS ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่าบริการเหล่านี้ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญที่เพิ่มมูลค่าให้บริการ ARPU ของบรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ รูปที่ 2 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริการประเภทต่าง ๆ บนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภาพรวมของทั้งทวีปเอเชียตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2544 จนถึง พ.ศ. 2553 ซึ่งในท้ายที่สุดบริการแบบ Non-Voice จะมีสัดส่วนที่เป็นนัยสำคัญต่อรายได้รวมทั้งหมด
สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยเอง นับตั้งแต่การเปิดให้บริการประเภท Non-Voice อย่างจริงจังเมื่อต้นปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็สามารถสร้างรายได้เพื่อเสริมทดแทนการลดทอนของค่า ARPU ภายในเครือข่ายของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดตัวบริการสื่อสารไร้สายมัลติมีเดียของบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด (HUTCH) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 เป็นต้นมา สภาพการแข่งขันในธุรกิจสื่อสารไร้สายในประเทศไทยก็เริ่มมุ่งความสำคัญในการสร้างบริการ Non-Voice ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้บริการ MMS อย่างเป็นทางการ การคิดโปรโมชั่นกระตุ้นการท่องอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือแม้กระทั่งการทดลองเปิดให้บริการชมภาพยนตร์ผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ (TV on Mobile) ซึ่งความพยายามของผู้ให้บริการเครือข่ายแต่ละราย ทำให้เกิดกระแสความสนใจใช้บริการ Non-Voice เพิ่มมากขึ้น
รูปที่ 3 และ 4 แสดงถึงความสำคัญของรายได้ที่เกิดขึ้นจากบริการ Non-Voice นับตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา อันมีผลทำให้บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเพิ่มค่า ARPU ของตนให้มีแนวโน้มสูงขึ้น พร้อม ๆ กับการเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการภายในเครือข่ายของตน ซึ่งแตกต่างจากสภาพการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ที่รายได้เฉลี่ยของตนตกลงเรื่อย ๆ สวนทางกับการเพิ่มจำนวนของกลุ่มผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงกลุ่มผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมใช้ ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ของประเทศ มีการเพิ่มค่า ARPU ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากนโยบายการตลาดของผู้ให้บริการที่มีการจำกัดเวลาในการโทรให้สัมพันธ์กับวงเงินก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ความนิยมในบริการ Non-Voice ประเภท SMS และ EMS โดยเฉพาะที่อยู่ในรูปแบบของบริการดาวน์โหลดรูปภาพ (Logo/Animation) และเสียงเรียกเข้า (Ringtone) ในกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษามีผลอย่างเป็นนัยสำคัญต่อการเพิ่มค่า ARPU ดังกล่าว
ข้อจำกัดของเครือข่าย 2.5G และ 2.75G
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.5G หรือ 2.75G แม้จะสามารถรองรับการสื่อสารประเภท Non-Voice ได้ แต่ก็ไม่อาจสร้างบริการประเภท Killer Application ที่ผลิกผันรูปแบบการให้บริการได้อย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากสถาการณ์การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย ที่แม้จะมีการเติบโตอย่างชัดเจนในตลาดประเภท Non-Voice แต่เมื่อศึกษาอย่างละเอียดก็จะพบว่าบริการที่ประสบความสำเร็จเกือบทั้งหมด ล้วนเป็นบริการประเภท SMS และ EMS ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดรูปภาพหรือเสียงเรียกเข้า รวมถึงการเล่นเกมส์ตอบปัญหาหรือส่งผลโหวตที่ปรากฏอยู่ตามสื่อชนิดต่าง ๆ ซึ่งบริการเหล่านี้ล้วนเป็นบริการพื้นฐานในเครือข่าย 2G
ข้อจำกัดของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อน 2.5G และ 2.75G เกิดขึ้นมาจากความพยายามพัฒนาเครือข่าย 2G เดิม ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน GSM หรือ CDMA ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าการลงทุน ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายไม่อาจบริหารจัดการทรัพยากรเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM ไม่ว่าจะเป็นย่านความถี่ 900 เมกะเฮิตรซ์ , 1800 เมกะเฮิตรซ์ หรือ 1900 เมกะเฮิตรซ์ เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีการติดตั้งใช้งานมาตั้งแต่การเปิดให้บริการในยุค 2G ล้วนเป็นเทคโนโลยีเก่า มีการทำงานแบบ Time Division Multiple Access (TDMA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่า ต้องจัดสรรวงจรให้กับผู้ใช้งานตายตัว ไม่สามารถนำทรัพยากรเครือข่ายมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีดังกล่าวเหมาะสำหรับการสื่อสารข้อมูลแบบ Voice ซึ่งต้องการคุณภาพและความคมชัดในการสนทนา
แม้เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยี GPRS และ EDGE ซึ่งถือเป็นการเสริมเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลแบบแพ็กเกตสวิตชิ่ง (Packet Switching) ที่มีความยืดหยุ่นในการสื่อสารข้อมูลแบบ Non-Voice ในลักษณะเดียวกับที่พบในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็ตาม แต่เทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภทนี้ก็ถือว่าเป็นการ ต่อยอด บนเครือข่ายแบบเดิมที่มีการทำงานแบบ TDMA ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายต้องพะวงกับการจัดสรรทรัพยากรช่องสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจัดสรรวงจรสื่อสารผ่านคลื่นความถี่วิทยุจากสถานีฐานไปยังเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการแบบ Non-Voice ได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากจะทำให้เกิดผลรบกวนต่อจำนวนวงจรสื่อสารแบบ Voice มากจนเกินไป
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงพบว่าไม่มีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.5G หรือ 2.75G รายใดในโลก สามารถเปิดให้บริการเทคโนโลยี GPRS ด้วยอัตราเร็วสูงสุด 171 กิโลบิตต่อวินาที หรือ EDGE ด้วยอัตราเร็ว 384 กิโลบิตต่อวินาทีได้ เนื่องจากการทำเช่นนั้นจะทำให้สถานีฐาน (Base Station) ที่ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณกับเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่มีวงจรสื่อสารเหลือสำหรับให้บริการแบบ Voice อีกต่อไป ผลที่เกิดขึ้นในมุมมองของผู้ใช้บริการก็คือความเชื่องช้าในการสื่อสารข้อมูลผ่านเครือข่าย 2.5G และ 2.75G ทำให้หมดความสนใจที่จะใช้บริการต่อไป โดยในขณะเดียวกันก็มีบริการสื่อสารอัตราเร็วสูงแบบบรอดแบนด์ผ่านคู่สาย เช่น DSL (Digital Subscriber Line) เป็นทางเลือกสำหรับใช้บริการ ความสนใจที่จะใช้เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรับส่งข้อมูลจึงมีอยู่เฉพาะการเล่นเกมส์และส่ง SMS, MMS ซึ่งทำได้ง่าย และมีการประชาสัมพันธ์ดึงดูดใจมากมาย
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G
เพื่อเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการเปิดให้บริการ Non-Voice อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งยังคงรักษาคุณภาพในการให้บริการ Voice ด้วยระดับคุณภาพที่ทัดเทียมหรือดีกว่าในยุค 2G องค์กรสากล 3GPP (Third Generation Program Partnership) และ 3GPP2 จึงได้กำหนดมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ขึ้น โดยมีมาตรฐานสำคัญอยู่ 2 ประเภท คือ
มาตรฐาน UMTS (Universal Mobile Telecommunications Services) เป็นมาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้นำไปพัฒนาจากยุค 2G/2.5G/2.75G ไปสู่มาตรฐานยุค 3G อย่างเต็มตัว รับผิดชอบการพัฒนามาตรฐานโดยองค์กร 3GPP มีเทคโนโลยีหลักที่ปัจจุบันมีการยอมรับใช้งานทั่วโลกคือมาตรฐาน Wideband Code Division Multiple Access (W-CDMA) โดยในอนาคตจะมีการพัฒนาต่อเนื่องไปสู่มาตรฐาน HSDPA (High Speed Downlink Packet Access) ซึ่งรองรับการสื่อสารด้วยอัตราเร็วสูงถึง 14 เมกะบิตต่อวินาที หรือเร็วกว่าการสื่อสารแบบ 2.75G ถึง 36 เท่า มาตรฐาน W-CDMA นี้เองที่กิจการร่วมค้า ไทย - โมบาย กำลังจะดำเนินการพัฒนาเพื่อเปิดให้บริการภายในต้นปี พ.ศ. 2548 นอกจากจะเป็นเส้นทางในการพัฒนาสู่มาตรฐาน 3G ของบรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM แล้ว มาตรฐาน W-CDMA ยังได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการรายใหญ่อย่างบริษัท NTT DoCoMo ผู้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ I-mode ซึ่งใช้เทคโนโลยี PDC ให้เป็นมาตรฐาน 3G สำหรับใช้งานภายใต้เครื่องหมายการค่า “FOMA” โดยได้เปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา และปัจจุบัน W-CDMA ได้กลายเป็นเครือข่าย 3G ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มาตรฐาน cdma2000 เป็นการพัฒนาเครือข่าย CDMA ให้รองรับการสื่อสารในยุค 3G รับผิดชอบการพัฒนามาตรฐานโดยองค์กร 3GPP2 มีเทคโนโลยีหลักคือ cdma2000-3xRTT ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับมาตรฐาน W-CDMA ของค่ายยุโรป แต่ปัจจุบันยังไม่มีกำหนดความพร้อมสำหรับให้บริการเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน สำหรับในประเทศไทย บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด เปิดให้บริการเฉพาะเครือข่าย cdma20001xEV-DO ซึ่งยังมีขีดความสามารถเทียบเท่าเครือข่าย 2.75G เท่านั้น
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ W-CDMA ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รองรับการสื่อสารแบบมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบ โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารชนิด TDMA ที่ปรากฏอยู่ในเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 2G/2.5G/2.75G ไปเป็นการสื่อสารแบบแพ็กเกตสวิทชิ่งเต็มรูปแบบ สามารถรองรับทั้งการสื่อสารทั้ง Voice และ Non-Voice โดยมีมาตรฐานการรองรับและควบคุมคุณภาพของข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล (Information Coding) จึงทำให้ผู้ให้บริการเครือข่าย 3G ก้าวพ้นจากข้อจำกัดในการบริหารจัดการข้อมูลประเภท Voice และ Non-Voice ดังที่ปรากฏอยู่ในมาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G ได้อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เครือข่าย W-CDMA สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลได้อย่างเต็มรูปแบบ และให้เกิดความคล่องตัวในการจัดสรรทรัพยากรความถี่วิทยุ จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดย่านความถี่สำหรับใช้เปิดให้บริการ โดยเป็นไปตามแผนผังการจัดวางความถี่สากลทั่วโลกดังแสดงในรูปที่ 5 ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้ กิจการร่วมค้าไทย - โมบาย เป็นเพียงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายเดียวในประเทศไทยที่สามารถเปิดให้บริการเครือข่าย 3G แบบ W-CDMA ได้ในทันที เนื่องจากมีสิทธิ์ใช้คลื่นความถี่วิทยุในย่าน 1965 – 1980 เมกะเฮิตรซ์ และ 2155 – 2170 เมกะเฮิตรซ์ ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายรายอื่น ๆ จำเป็นต้องยื่นคำร้องผ่านกระบวนการจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีเพื่อได้สิทธิ์ในการเปิดให้บริการ W-CDMA เป็นรายต่อไป
จุดเด่นของมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA
นอกจากมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีสถานีฐาน (Base Station Subsystem) จากยุค 2G ซึ่งใช้เทคโนโลยี TDMA เป็นการรับส่งข้อมูลในรูปแบบแพ็กเกตเพื่อความคล่องตัวในการจัดสรรทรัพยากรความถี่สำหรับให้บริการทั้งแบบ Voice และ Non-Voice อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด อันจะช่วยสร้างความรู้สึกให้กับผู้ใช้บริการ (End User Perception) ถึงความรวดเร็วในการสื่อสารข้อมูล และยังคงรักษาคุณภาพของการสนทนาที่เหนือกว่ามาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G แล้ว มาตรฐาน W-CDMA ยังมีความคล่องตัวในการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายข้อมูลที่อยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมาตรฐานการเชื่อมต่อต่าง ๆ สอดรับกับมาตรฐานของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตทุกประการ ก่อให้เกิดการเปิดกว้างในรูปแบบของความร่วมมือกับพันธมิตรจำนวนมาก มีความคล่องตัวในการบันทึก จัดเก็บ และบริหารจัดการข้อมูลประเภทสื่อข้อมูล (Content) ต่าง ๆ
เมื่อทำการเปรียบเทียบเฉพาะด้านของอัตราเร็วในการสื่อสารข้อมูลดังแสดงในรูปที่ 6 จะเห็นว่ามาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G นอกจากจะรองรับการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็วกว่ามาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G แล้ว ยังก่อให้เกิดการถือกำเนิดของบริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นบนเครือข่ายยุคในตระกูล 2G/2.5G/2.75G ได้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือบริการ Video Telephony และ Video Conference ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบเห็นหน้ากัน โดยเครือข่าย 3G จะทำการถ่ายทอดสดทั้งภาพและเสียงระหว่างคู่สนทนา โดยไม่เกิดความหน่วงหรือล่าช้าของข้อมูล บริการในลักษณะนี้จะกลายเป็น จุดขาย สำคัญประการหนึ่งของมาตรฐานการสื่อสารแบบ 3G ทั้งนี้เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ล้วนรองรับบริการ Video Telephony แล้วทั้งสิ้น จึงสามารถเปิดให้บริการดังกล่าวได้ในทันที
ข้อมูลจาก UMTS Forum ในรูปที่ 7 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA เปรียบเทียบกับมาตรฐาน GSM โดยพิจารณาอัตราการเติบโตภายในช่วง 10 ไตรมาสแรก (2 ปีครึ่ง) หลังจากการเปิดให้บริการ GSM ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 เทียบกับ 10 ไตรมาสแรกหลังจากการเปิดให้บริการ W-CDMA ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2544 พบว่าเครือข่าย 3G แบบ W-CDMA มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่ามาก มูลเหตุสำคัญมาจากแรงผลักดัน (Business Momentum) ที่ผู้ใช้บริการ 2.5G หรือ 2.75G รอคอยเครือข่ายสื่อสารไร้สายที่สามารถตอบสนองความต้องการในการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูงอย่างแท้จริง อีกทั้งผู้ให้บริการเครือข่ายยังมีความคล่องตัวในการจัดสรรเครือข่ายในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างบริการสื่อสารประเภท Non-Voice ที่ต้องพึ่งพาอัตราเร็วในการสื่อสารข้อมูลที่สูงขึ้น นอกเหนือจากบริการ Non-Voice พื้นฐานอย่าง SMS และ EMS
กล่าวโดยสรุป ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้มาตรฐานเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA มีแนวโน้มของการประสบความสำเร็จทางธุรกิจที่รวดเร็วกว่ามาตรฐาน 2G จนถึง 2.75G นั้น สืบเนื่องมาจากการปฏิวัติรูปแบบของเทคโนโลยีเครือข่าย เพื่อตอบสนองรูปแบบการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจให้ผลักดันบริการ Non-Voice อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ UMTS Forum ได้กล่าวถึงจุดเด่นของมาตรฐาน W-CDMA ซึ่งจะนำความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการดังนี้ (เอกสาร Why the world has chosen W-CDMA : 24 September 2003)
1. เครือข่าย W-CDMA รับประกันคุณภาพในการรองรับข้อมูลแบบ Voice และ Non-Voice ในแง่ของผู้ใช้บริการจะรับรู้ได้ว่าคุณภาพเสียงจากการใช้งานเครือข่าย 3G ชัดเจนกว่าหรืออย่างน้อยเทียบเท่าการสนทนาผ่านเครือข่าย 2G ส่วนการรับส่งข้อมูลแบบ Non-Voice จะรับรู้ถึงอัตราเร็วในการสื่อสารที่สูงกว่าการใช้งานผ่านเครือข่าย 2.5G และ 2.75G มาก อันเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเครือข่าย และใช้ย่านความถี่ที่สูงขึ้น
2. W-CDMA เป็นมาตรฐานเปิด (Open Standard) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยกลุ่ม 3GPP ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับผู้พัฒนามาตรฐาน GSM ทำให้ผู้ให้บริการ 3G สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 3G เข้าหากันได้ถึงขั้นอนุญาตให้มีการใช้งานข้ามเครือข่าย (Roaming) เช่นเดียวกับที่เป็นอยู่ในเครือข่ายยุค 2G นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานข้ามเครือข่ายกับมาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G ได้ในทันที โดยผู้ใช้บริการเพียงมีอุปกรณ์สื่อสารแบบ Dual Mode เท่านั้น ทำให้เกิดลู่ทางในการสร้างเครือข่าย W-CDMA เพื่อเปิดให้ผู้ประกอบการเครือข่ายรายอื่นได้ร่วมเข้าใช้บริการ ในลักษณะของ Mobile Virtual Network Operator (MVNO) เป็นรายได้ที่สำคัญนอกเหนือจากการให้บริการ 3G กับผู้ใช้บริการที่จดทะเบียนภายในเครือข่าย
3. มาตรฐาน W-CDMA เป็นมาตรฐานโลก ที่จะเข้ามาแทนที่เครือข่ายในตระกูล GSM เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เครือข่าย GSM เข้ามาแทนที่เครือข่าย 1G เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว จึงเป็นการรับประกันถึงพัฒนาการที่มีอย่างต่อเนื่องในด้านต่าง ๆ การเร่งเปิดให้บริการ 3G จึงเปรียบได้กับการเร่งเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยักษ์ใหญ่ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นในอดีต
4. พิจารณาเฉพาะการให้บริการแบบ Voice จะเห็นว่าการลงทุนสร้างเครือข่าย W-CDMA มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการสร้างเครือข่าย GSM ถึงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมาตรฐาน W-CDMA มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวให้ผู้ประกอบสามารถปรับเปลี่ยนทรัพยากรความถี่เพื่อรองรับ Voice และ Non-Voice ได้อย่างผสมผสาน ต่างจากการกำหนดทรัพยากรตายตัวในกรณีของเทคโนโลยี GSM
5. W-CDMA เป็นมาตรฐานสื่อสารไร้สายชนิดเดียวที่มีรูปแบบการทำงานแบบแถบความถี่กว้าง (Wideband) อันนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการสร้างพื้นที่ให้บริการที่กว้างใหญ่ ไปพร้อม ๆ กับความสะดวกในการเพิ่มขยายขีดความสามารถในการรองรับข้อมูลข่าวสาร ต่างจากเครือข่าย 2G โดยทั่วไปที่ปัจจุบันเริ่มประสบกับปัญหาการจัดสรรความถี่ที่ไม่เพียงพอต่อการขยายเครือข่าย เนื่องจากเป็นระบบแบบแถบความถี่แคบ (Narrow Band)
6. กลไกการทำงานภายในเครือข่าย W-CDMA เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐาน IETF (Internet Engineering Task Force) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโปรแกรมหรือบริการพิเศษต่าง ๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้ทำการพัฒนาสร้างบริการผ่านอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย โดยใช้ทักษะความสามารถและความชำนาญที่มีอยู่ เป็นการกระตุ้นให้เกิดบริการประเภท Non-Voice ได้สารพัดรูปแบบ
7. มีแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถในรองรับการสื่อสารข้อมูลที่มีอัตราเร็วสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสู่มาตรฐาน HSDPA ที่รองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วที่สูงมากถึง 14 เมกะบิตต่อวินาที ในขณะที่มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM ไม่สามารถพัฒนาให้รองรับการสื่อสารข้อมูลได้มากกว่าเทคโนโลยี EDGE ในปัจจุบัน ซึ่งรองรับข้อมูลได้ด้วยอัตราเร็ว 384 กิโลบิตต่อวินาที และในความเป็นจริงก็ไม่สามารถเปิดให้บริการด้วยอัตราเร็วถึงระดับดังกล่าวได้ เนื่องจากจะทำให้สถานีไม่สามารถรองรับบริการ Voice ได้อีกต่อไป
8. ในอนาคตมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G มีทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจนในการรวมตัวกับมาตรฐานสื่อสารไร้สายชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน Wireless LAN (IEEE802.11b/g) หรือ WiMAX (IEEE802.16d/e/e+) ทำให้ผู้ใช้บริการเครือข่ายไร้สายสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานในเครือข่ายใด ๆ ก็ได้ตามความเหมาะสมทางภูมิประเทศ โดยยังคงได้รับการดูแลโดยผู้ให้บริการเครือข่าย 3G
ความสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM จำนวนมากทั่วโลก รวมนักลงทุนหน้าใหม่ ให้ความสำคัญสำหรับการแสวงหาสิทธิ์ในการเปิดให้บริการเครือข่าย 3G และมีแผนกำหนดเปิดให้บริการเทคโนโลยี W-CDMA ดังมีข้อมูลแสดงในรูปที่ 8 โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับต้น ๆ ของโลก 8 รายได้ตัดสินใจเลือกมาตรฐาน W-CDMA เป็นเทคโนโลยี 3G ดังแสดงในรูปที่ 9
ในท้ายที่สุด ความสมบูรณ์แบบในการรองรับธุรกิจ Non-Voice ของมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA จะช่วยผลักดันให้เกิดห่วงโซ่ธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ ดังแสดงในรูปที่ 10 แม้จะมีความพยายามในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมภายในประเทศที่จะผลักดันให้เกิดการประสานผลประโยชน์อย่างลงตัวระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G/2.5G/2.75G กับผู้ประกอบการสื่อข้อมูลต่าง ๆ มาก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของเครือข่ายในตระกูล GSM และ CDMA เองที่ไม่มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะสร้างความประทับใจต่อผู้ใช้บริการ จึงทำให้เกิดการขาดช่วงของความสมดุลในการผสานผลประโยชน์ เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ FOMA ของบริษัท NTT DoCoMo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA และประสบความสำเร็จในการดึงศักยภาพของเครือข่าย W-CDMA ให้เกื้อหนุนต่อความลงตัวสำหรับการร่วมมือในธุรกิจ Non-Voice ในประเทศญี่ปุ่นอย่างงดงาม ต่อเนื่องด้วยความคืบหน้าในการสานต่อโครงสร้างธุรกิจ Non-Voice ในประเทศจีนและอีกหลาย ๆ ประเทศ จึงสรุปได้ว่ามาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA จะเป็นการเปิดประตูสู่ธุรกิจ Non-Voice ในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3 (อังกฤษ: 3G) เป็นมาตรฐานโทรศัพท์มือถือในยุคที่ 3 ถูกพัฒนาและกำลังมาแทนที่ ระบบโทรศัพท์ 2G ซึ่ง 3G นั้นพัฒนาบนพื้นฐานของมาตรฐาน International Mobile Telecommunications 2000, IMT-2000 ภายใต้กลุ่มของ International Telecommunication Union (ITU)
3G นั้น ได้พัฒนามาจาก GPRS และ EDGE ตอนนี้ได้มีในเมืองไทยแล้ว แต่ในของระบบ AIS นั้นจะทำ HSDPA หรือ 3.5G (ระบบ 3G มีใช้เฉพาะที่จังหวัด เชียงใหม่ และ กทม.) โดยขณะนี้ มีแค่ AIS ดีแทค และ ทรูมูฟ เท่านั้นที่ให้บริการ (ดีแทคยังไม่เปิดโดยทั่วไป)
มาตรฐานโทรศัพท์มือถือยุคที่ 3 หรือที่เรียกว่า ระบบ UMTS หรือ WCDMA ในระบบ GSM 850 , 900 , 1800 , 1900 และ 2100 (ที่เป็นสากลที่โทรศัพท์ระบบ 3G ต้องมี)
3G คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สาม หรือมาตรฐาน IMT-2000 นั้นนิยามสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า
“ต้องมี แพลทฟอร์ม (Platform) สำหรับการหลอมรวมของบริการต่างๆ อาทิ กิจการประจำที่ (Fixed Service) กิจการเคลื่อนที่ (Mobile Service) บริการสื่อสารเสียง ข้อมูล อินเทอร์เน็ต และ พหุสื่อ (Multimedia) เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” คือ สามารถถ่ายเท ส่งต่อข้อมูล ดิจิตอล ไปยังอุปกรณ์โทรคมนาคมประเภทต่างๆ ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้
“ความสามารถในการใช้โครงข่ายทั่วโลก (Global Roaming) ” คือ ผู้บริโภคสามารถ ถืออุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ไปใช้ได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง
“บริการที่ไม่ขาดตอน (Seamless Delivery Service) ” คือ การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยน เซลล์ไซต์ (Cell Site) เขาใช้คำว่า Seam less นั้นแปลว่า ไร้รอยตะเข็บนะครับ
อัตราความเร็วในการส่งข้อมูล (Transmission Rate) ในมาตรฐาน IMT-2000 นั้นกำหนดไว้ว่าต้องมีอัตราความเร็วดังนี้ [1]
ในสภาวะอยู่กับที่หรือขณะเดิน มีความเร็วอย่างน้อยที่สุด 2 เมกะบิต/วินาที
ในสภาวะเคลื่อนที่โดยยานพาหนะ มีความเร็วอย่างน้อยที่สุด 384 กิโลบิต/วินาที
ทุกสภาวะ มีความเร็วอย่างมากที่สุด 14.4 เมกะบิต/วินาที
จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี 3G
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 (Third Generation Mobile Network หรือ 3G) เป็นเทคโนโลยียุคถัดมาจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 2 หรือ 2G ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจสื่อสารไร้สายอย่างมหาศาลนับตั้งแต่ พ.ศ. 2537 เป็นต้นมา ในยุคของโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G มีมาตรฐานที่สำคัญที่มีการนิยมใช้งานทั่วโลกอยู่ 2 มาตรฐาน กล่าวคือมาตรฐาน GSM (Global System for Mobile Communication) อันเป็นมาตรฐานของกลุ่มสหภาพยุโรป ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกสูงที่สุด และมาตรฐาน CDMA (Code Division Multiple Access) อันเป็นมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่สอง
จุดมุ่งหมายของการพัฒนามาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ขึ้น ก็เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานระบบสื่อสารไร้สายส่วนบุคคล (Personal Communication) ในลักษณะไร้พรมแดน (Global Communication) โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถนำเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปใช้งานในที่ใด ๆ ก็ได้ทั่วโลกที่มีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว และยังเป็นยุคของการนำมาตรฐานสื่อสารแบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบมาใช้รักษาความปลอดภัย และเสริมประสิทธิภาพในการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งข้อความแบบสั้น (Short Message Service หรือ SMS) และการเริ่มต้นของยุคสื่อสารข้อมูลผ่านเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นครั้งแรก โดยมาตรฐาน GSM และ CDMA ตอบสนองความต้องการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูงสุด 9,600 บิตต่อวินาที ซึ่งถือว่าเพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเร็วของการสื่อสารผ่านโมเด็มในเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานเมื่อกว่าสิบปีก่อน
การตอบรับของกลุ่มผู้บริโภคบริการสื่อสารไร้สายทั่วโลก ทำให้มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการณ์ทั่วโลกอย่างมหาศาล ก่อให้เกิดการเปิดสัมปทานและนำมาซึ่งการแข่งขันอย่างรุนแรงในแทบทุกประเทศ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนอกจากจะมีผลทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของผู้ใช้บริการอย่างก้าวกระโดดแล้ว ในขณะเดียวกันยังสร้างผลกระทบต่อรายได้โดยเฉลี่ยต่อเลขหมาย (Average Revenue per User หรือ ARPU) ของผู้ให้บริการเครือข่าย อันเนื่องมาจากการกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา ยิ่งเมื่อมีการเปิดตัวบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพร้อมใช้ (Prepaid Subscriber) ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา ก็ทำให้เกิดการลดถอยของ ARPU ลงอย่างต่อเนื่อง พร้อม กับปัญหาผู้ใช้บริการย้ายค่าย (Brand Switching) ที่รุนแรงขึ้น
เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตราสินค้าและยังเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเพื่อชดเชย ARPU ที่ลดต่ำลง เนื่องจากปรากฏการณ์อิ่มตัวของบริการสื่อสารด้วยเสียง (Voice Service) ผู้ประกอบการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกจึงมีความเห็นตรงกันที่จะสร้างบริการสื่อสารไร้สายรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้น โดยพัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ที่เปิดใช้งานอยู่ ให้มีศักยภาพเพิ่มเติมเพื่อรองรับบริการสื่อสารข้อมูลแบบที่มิใช่เสียง (Non-Voice Communication) พร้อมกับการวางแผนธุรกิจ แผนปฏิบัติการทางวิศวกรรม การตลาด และแผนการลงทุน เพื่อสร้างกระแสความต้องการ (Demand Aggregation) ให้กับฐานลูกค้าผู้ใช้บริการที่มีอยู่เดิม เพื่อเพิ่ม ARPU ให้สูงขึ้น พร้อม ๆ กับผลักดันให้เกิดบริการรูปแบบใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งข้อมูลแบบ EMS (Enhanced Messaging Service) หรือ MMS (Multimedia Messaging Service) รวมถึงบริการท่องโลกอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านอุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งมีทั้งที่เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่ว ๆ ไป อุปกรณ์ไร้สายประเภท PDA (Personal Digital Assistant) และโทรศัพท์เคลื่อนที่อัจฉริยะ (Smart Phone)
เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ที่ได้มีการลงทุนไว้แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด มาตรฐานเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลในรูปแบบใหม่ ๆ จึงถูกกำหนดขึ้น ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาเครือข่ายเดิม ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี HSCSD (High Speed Circuit Switching Data), GPRS (General Packet Radio Service) หรือ EDGE (Enhanced Data Rate for GPRS Evolution) ของค่าย GSM และเทคโนโลยี cdma20001xEV-DV หรือ cdma20001xEV-DO ของค่าย CDMA ดังแสดงพัฒนาการในรูปที่ 1 เรียกมาตรฐานต่อยอดดังกล่าวโดยรวมว่า เทคโนโลยียุค 2.5G/2.75G ซึ่งในช่วงเวลานี้เองที่ปรากฏมีมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ PDC (Packet Digital Cellular) เปิดให้บริการสื่อสารข้อมูลในลักษณะของเทคโนโลยี 2.5G ภายใต้ชื่อเครื่องหมายการค้า i-mode ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดศักราชของการให้บริการสื่อสารข้อมูลแบบมัลติมีเดียไร้สายในประเทศญี่ปุ่น และได้กลายเป็นต้นแบบของการจัดทำธุรกิจ Non-Voice ให้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกในเวลาต่อมา
การเติบโตของธุรกิจ Non-Voice
ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เป็นต้นมาอันเป็นยุคเริ่มต้นของเทคโนโลยี 2.5G ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย มีการผลักดันบริการสื่อสารข้อมูลรูปแบบใหม่ ๆ ในรูปแบบ Non-Voice เพื่อสร้างกระแสนิยมในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 2.5G อย่างเต็มรูปแบบ หรือเป็นการผลักดันให้เกิดการยอมรับในบริการที่มีอยู่แล้ว อันได้แก่บริการ SMS ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่าบริการเหล่านี้ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญที่เพิ่มมูลค่าให้บริการ ARPU ของบรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ รูปที่ 2 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริการประเภทต่าง ๆ บนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภาพรวมของทั้งทวีปเอเชียตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2544 จนถึง พ.ศ. 2553 ซึ่งในท้ายที่สุดบริการแบบ Non-Voice จะมีสัดส่วนที่เป็นนัยสำคัญต่อรายได้รวมทั้งหมด
สำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยเอง นับตั้งแต่การเปิดให้บริการประเภท Non-Voice อย่างจริงจังเมื่อต้นปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็สามารถสร้างรายได้เพื่อเสริมทดแทนการลดทอนของค่า ARPU ภายในเครือข่ายของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดตัวบริการสื่อสารไร้สายมัลติมีเดียของบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด (HUTCH) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 เป็นต้นมา สภาพการแข่งขันในธุรกิจสื่อสารไร้สายในประเทศไทยก็เริ่มมุ่งความสำคัญในการสร้างบริการ Non-Voice ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้บริการ MMS อย่างเป็นทางการ การคิดโปรโมชั่นกระตุ้นการท่องอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือแม้กระทั่งการทดลองเปิดให้บริการชมภาพยนตร์ผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ (TV on Mobile) ซึ่งความพยายามของผู้ให้บริการเครือข่ายแต่ละราย ทำให้เกิดกระแสความสนใจใช้บริการ Non-Voice เพิ่มมากขึ้น
รูปที่ 3 และ 4 แสดงถึงความสำคัญของรายได้ที่เกิดขึ้นจากบริการ Non-Voice นับตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา อันมีผลทำให้บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเพิ่มค่า ARPU ของตนให้มีแนวโน้มสูงขึ้น พร้อม ๆ กับการเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการภายในเครือข่ายของตน ซึ่งแตกต่างจากสภาพการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ที่รายได้เฉลี่ยของตนตกลงเรื่อย ๆ สวนทางกับการเพิ่มจำนวนของกลุ่มผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงกลุ่มผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมใช้ ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ของประเทศ มีการเพิ่มค่า ARPU ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากนโยบายการตลาดของผู้ให้บริการที่มีการจำกัดเวลาในการโทรให้สัมพันธ์กับวงเงินก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ความนิยมในบริการ Non-Voice ประเภท SMS และ EMS โดยเฉพาะที่อยู่ในรูปแบบของบริการดาวน์โหลดรูปภาพ (Logo/Animation) และเสียงเรียกเข้า (Ringtone) ในกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษามีผลอย่างเป็นนัยสำคัญต่อการเพิ่มค่า ARPU ดังกล่าว
ข้อจำกัดของเครือข่าย 2.5G และ 2.75G
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.5G หรือ 2.75G แม้จะสามารถรองรับการสื่อสารประเภท Non-Voice ได้ แต่ก็ไม่อาจสร้างบริการประเภท Killer Application ที่ผลิกผันรูปแบบการให้บริการได้อย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากสถาการณ์การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย ที่แม้จะมีการเติบโตอย่างชัดเจนในตลาดประเภท Non-Voice แต่เมื่อศึกษาอย่างละเอียดก็จะพบว่าบริการที่ประสบความสำเร็จเกือบทั้งหมด ล้วนเป็นบริการประเภท SMS และ EMS ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดรูปภาพหรือเสียงเรียกเข้า รวมถึงการเล่นเกมส์ตอบปัญหาหรือส่งผลโหวตที่ปรากฏอยู่ตามสื่อชนิดต่าง ๆ ซึ่งบริการเหล่านี้ล้วนเป็นบริการพื้นฐานในเครือข่าย 2G
ข้อจำกัดของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อน 2.5G และ 2.75G เกิดขึ้นมาจากความพยายามพัฒนาเครือข่าย 2G เดิม ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน GSM หรือ CDMA ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าการลงทุน ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายไม่อาจบริหารจัดการทรัพยากรเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM ไม่ว่าจะเป็นย่านความถี่ 900 เมกะเฮิตรซ์ , 1800 เมกะเฮิตรซ์ หรือ 1900 เมกะเฮิตรซ์ เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีการติดตั้งใช้งานมาตั้งแต่การเปิดให้บริการในยุค 2G ล้วนเป็นเทคโนโลยีเก่า มีการทำงานแบบ Time Division Multiple Access (TDMA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่า ต้องจัดสรรวงจรให้กับผู้ใช้งานตายตัว ไม่สามารถนำทรัพยากรเครือข่ายมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีดังกล่าวเหมาะสำหรับการสื่อสารข้อมูลแบบ Voice ซึ่งต้องการคุณภาพและความคมชัดในการสนทนา
แม้เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยี GPRS และ EDGE ซึ่งถือเป็นการเสริมเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลแบบแพ็กเกตสวิตชิ่ง (Packet Switching) ที่มีความยืดหยุ่นในการสื่อสารข้อมูลแบบ Non-Voice ในลักษณะเดียวกับที่พบในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็ตาม แต่เทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภทนี้ก็ถือว่าเป็นการ ต่อยอด บนเครือข่ายแบบเดิมที่มีการทำงานแบบ TDMA ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายต้องพะวงกับการจัดสรรทรัพยากรช่องสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจัดสรรวงจรสื่อสารผ่านคลื่นความถี่วิทยุจากสถานีฐานไปยังเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการแบบ Non-Voice ได้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากจะทำให้เกิดผลรบกวนต่อจำนวนวงจรสื่อสารแบบ Voice มากจนเกินไป
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงพบว่าไม่มีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.5G หรือ 2.75G รายใดในโลก สามารถเปิดให้บริการเทคโนโลยี GPRS ด้วยอัตราเร็วสูงสุด 171 กิโลบิตต่อวินาที หรือ EDGE ด้วยอัตราเร็ว 384 กิโลบิตต่อวินาทีได้ เนื่องจากการทำเช่นนั้นจะทำให้สถานีฐาน (Base Station) ที่ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณกับเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่มีวงจรสื่อสารเหลือสำหรับให้บริการแบบ Voice อีกต่อไป ผลที่เกิดขึ้นในมุมมองของผู้ใช้บริการก็คือความเชื่องช้าในการสื่อสารข้อมูลผ่านเครือข่าย 2.5G และ 2.75G ทำให้หมดความสนใจที่จะใช้บริการต่อไป โดยในขณะเดียวกันก็มีบริการสื่อสารอัตราเร็วสูงแบบบรอดแบนด์ผ่านคู่สาย เช่น DSL (Digital Subscriber Line) เป็นทางเลือกสำหรับใช้บริการ ความสนใจที่จะใช้เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรับส่งข้อมูลจึงมีอยู่เฉพาะการเล่นเกมส์และส่ง SMS, MMS ซึ่งทำได้ง่าย และมีการประชาสัมพันธ์ดึงดูดใจมากมาย
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G
เพื่อเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการเปิดให้บริการ Non-Voice อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งยังคงรักษาคุณภาพในการให้บริการ Voice ด้วยระดับคุณภาพที่ทัดเทียมหรือดีกว่าในยุค 2G องค์กรสากล 3GPP (Third Generation Program Partnership) และ 3GPP2 จึงได้กำหนดมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ขึ้น โดยมีมาตรฐานสำคัญอยู่ 2 ประเภท คือ
มาตรฐาน UMTS (Universal Mobile Telecommunications Services) เป็นมาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้นำไปพัฒนาจากยุค 2G/2.5G/2.75G ไปสู่มาตรฐานยุค 3G อย่างเต็มตัว รับผิดชอบการพัฒนามาตรฐานโดยองค์กร 3GPP มีเทคโนโลยีหลักที่ปัจจุบันมีการยอมรับใช้งานทั่วโลกคือมาตรฐาน Wideband Code Division Multiple Access (W-CDMA) โดยในอนาคตจะมีการพัฒนาต่อเนื่องไปสู่มาตรฐาน HSDPA (High Speed Downlink Packet Access) ซึ่งรองรับการสื่อสารด้วยอัตราเร็วสูงถึง 14 เมกะบิตต่อวินาที หรือเร็วกว่าการสื่อสารแบบ 2.75G ถึง 36 เท่า มาตรฐาน W-CDMA นี้เองที่กิจการร่วมค้า ไทย - โมบาย กำลังจะดำเนินการพัฒนาเพื่อเปิดให้บริการภายในต้นปี พ.ศ. 2548 นอกจากจะเป็นเส้นทางในการพัฒนาสู่มาตรฐาน 3G ของบรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM แล้ว มาตรฐาน W-CDMA ยังได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการรายใหญ่อย่างบริษัท NTT DoCoMo ผู้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ I-mode ซึ่งใช้เทคโนโลยี PDC ให้เป็นมาตรฐาน 3G สำหรับใช้งานภายใต้เครื่องหมายการค่า “FOMA” โดยได้เปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา และปัจจุบัน W-CDMA ได้กลายเป็นเครือข่าย 3G ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มาตรฐาน cdma2000 เป็นการพัฒนาเครือข่าย CDMA ให้รองรับการสื่อสารในยุค 3G รับผิดชอบการพัฒนามาตรฐานโดยองค์กร 3GPP2 มีเทคโนโลยีหลักคือ cdma2000-3xRTT ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับมาตรฐาน W-CDMA ของค่ายยุโรป แต่ปัจจุบันยังไม่มีกำหนดความพร้อมสำหรับให้บริการเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน สำหรับในประเทศไทย บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด เปิดให้บริการเฉพาะเครือข่าย cdma20001xEV-DO ซึ่งยังมีขีดความสามารถเทียบเท่าเครือข่าย 2.75G เท่านั้น
มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ W-CDMA ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รองรับการสื่อสารแบบมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบ โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารชนิด TDMA ที่ปรากฏอยู่ในเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 2G/2.5G/2.75G ไปเป็นการสื่อสารแบบแพ็กเกตสวิทชิ่งเต็มรูปแบบ สามารถรองรับทั้งการสื่อสารทั้ง Voice และ Non-Voice โดยมีมาตรฐานการรองรับและควบคุมคุณภาพของข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล (Information Coding) จึงทำให้ผู้ให้บริการเครือข่าย 3G ก้าวพ้นจากข้อจำกัดในการบริหารจัดการข้อมูลประเภท Voice และ Non-Voice ดังที่ปรากฏอยู่ในมาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G ได้อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เครือข่าย W-CDMA สามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลได้อย่างเต็มรูปแบบ และให้เกิดความคล่องตัวในการจัดสรรทรัพยากรความถี่วิทยุ จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดย่านความถี่สำหรับใช้เปิดให้บริการ โดยเป็นไปตามแผนผังการจัดวางความถี่สากลทั่วโลกดังแสดงในรูปที่ 5 ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้ กิจการร่วมค้าไทย - โมบาย เป็นเพียงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายเดียวในประเทศไทยที่สามารถเปิดให้บริการเครือข่าย 3G แบบ W-CDMA ได้ในทันที เนื่องจากมีสิทธิ์ใช้คลื่นความถี่วิทยุในย่าน 1965 – 1980 เมกะเฮิตรซ์ และ 2155 – 2170 เมกะเฮิตรซ์ ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายรายอื่น ๆ จำเป็นต้องยื่นคำร้องผ่านกระบวนการจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีเพื่อได้สิทธิ์ในการเปิดให้บริการ W-CDMA เป็นรายต่อไป
จุดเด่นของมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA
นอกจากมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีสถานีฐาน (Base Station Subsystem) จากยุค 2G ซึ่งใช้เทคโนโลยี TDMA เป็นการรับส่งข้อมูลในรูปแบบแพ็กเกตเพื่อความคล่องตัวในการจัดสรรทรัพยากรความถี่สำหรับให้บริการทั้งแบบ Voice และ Non-Voice อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด อันจะช่วยสร้างความรู้สึกให้กับผู้ใช้บริการ (End User Perception) ถึงความรวดเร็วในการสื่อสารข้อมูล และยังคงรักษาคุณภาพของการสนทนาที่เหนือกว่ามาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G แล้ว มาตรฐาน W-CDMA ยังมีความคล่องตัวในการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายข้อมูลที่อยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมาตรฐานการเชื่อมต่อต่าง ๆ สอดรับกับมาตรฐานของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตทุกประการ ก่อให้เกิดการเปิดกว้างในรูปแบบของความร่วมมือกับพันธมิตรจำนวนมาก มีความคล่องตัวในการบันทึก จัดเก็บ และบริหารจัดการข้อมูลประเภทสื่อข้อมูล (Content) ต่าง ๆ
เมื่อทำการเปรียบเทียบเฉพาะด้านของอัตราเร็วในการสื่อสารข้อมูลดังแสดงในรูปที่ 6 จะเห็นว่ามาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G นอกจากจะรองรับการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็วกว่ามาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G แล้ว ยังก่อให้เกิดการถือกำเนิดของบริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นบนเครือข่ายยุคในตระกูล 2G/2.5G/2.75G ได้ ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือบริการ Video Telephony และ Video Conference ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบเห็นหน้ากัน โดยเครือข่าย 3G จะทำการถ่ายทอดสดทั้งภาพและเสียงระหว่างคู่สนทนา โดยไม่เกิดความหน่วงหรือล่าช้าของข้อมูล บริการในลักษณะนี้จะกลายเป็น จุดขาย สำคัญประการหนึ่งของมาตรฐานการสื่อสารแบบ 3G ทั้งนี้เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ล้วนรองรับบริการ Video Telephony แล้วทั้งสิ้น จึงสามารถเปิดให้บริการดังกล่าวได้ในทันที
ข้อมูลจาก UMTS Forum ในรูปที่ 7 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA เปรียบเทียบกับมาตรฐาน GSM โดยพิจารณาอัตราการเติบโตภายในช่วง 10 ไตรมาสแรก (2 ปีครึ่ง) หลังจากการเปิดให้บริการ GSM ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 เทียบกับ 10 ไตรมาสแรกหลังจากการเปิดให้บริการ W-CDMA ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2544 พบว่าเครือข่าย 3G แบบ W-CDMA มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่ามาก มูลเหตุสำคัญมาจากแรงผลักดัน (Business Momentum) ที่ผู้ใช้บริการ 2.5G หรือ 2.75G รอคอยเครือข่ายสื่อสารไร้สายที่สามารถตอบสนองความต้องการในการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูงอย่างแท้จริง อีกทั้งผู้ให้บริการเครือข่ายยังมีความคล่องตัวในการจัดสรรเครือข่ายในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างบริการสื่อสารประเภท Non-Voice ที่ต้องพึ่งพาอัตราเร็วในการสื่อสารข้อมูลที่สูงขึ้น นอกเหนือจากบริการ Non-Voice พื้นฐานอย่าง SMS และ EMS
กล่าวโดยสรุป ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้มาตรฐานเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA มีแนวโน้มของการประสบความสำเร็จทางธุรกิจที่รวดเร็วกว่ามาตรฐาน 2G จนถึง 2.75G นั้น สืบเนื่องมาจากการปฏิวัติรูปแบบของเทคโนโลยีเครือข่าย เพื่อตอบสนองรูปแบบการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจให้ผลักดันบริการ Non-Voice อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ UMTS Forum ได้กล่าวถึงจุดเด่นของมาตรฐาน W-CDMA ซึ่งจะนำความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการดังนี้ (เอกสาร Why the world has chosen W-CDMA : 24 September 2003)
1. เครือข่าย W-CDMA รับประกันคุณภาพในการรองรับข้อมูลแบบ Voice และ Non-Voice ในแง่ของผู้ใช้บริการจะรับรู้ได้ว่าคุณภาพเสียงจากการใช้งานเครือข่าย 3G ชัดเจนกว่าหรืออย่างน้อยเทียบเท่าการสนทนาผ่านเครือข่าย 2G ส่วนการรับส่งข้อมูลแบบ Non-Voice จะรับรู้ถึงอัตราเร็วในการสื่อสารที่สูงกว่าการใช้งานผ่านเครือข่าย 2.5G และ 2.75G มาก อันเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเครือข่าย และใช้ย่านความถี่ที่สูงขึ้น
2. W-CDMA เป็นมาตรฐานเปิด (Open Standard) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยกลุ่ม 3GPP ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับผู้พัฒนามาตรฐาน GSM ทำให้ผู้ให้บริการ 3G สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 3G เข้าหากันได้ถึงขั้นอนุญาตให้มีการใช้งานข้ามเครือข่าย (Roaming) เช่นเดียวกับที่เป็นอยู่ในเครือข่ายยุค 2G นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานข้ามเครือข่ายกับมาตรฐาน 2G/2.5G/2.75G ได้ในทันที โดยผู้ใช้บริการเพียงมีอุปกรณ์สื่อสารแบบ Dual Mode เท่านั้น ทำให้เกิดลู่ทางในการสร้างเครือข่าย W-CDMA เพื่อเปิดให้ผู้ประกอบการเครือข่ายรายอื่นได้ร่วมเข้าใช้บริการ ในลักษณะของ Mobile Virtual Network Operator (MVNO) เป็นรายได้ที่สำคัญนอกเหนือจากการให้บริการ 3G กับผู้ใช้บริการที่จดทะเบียนภายในเครือข่าย
3. มาตรฐาน W-CDMA เป็นมาตรฐานโลก ที่จะเข้ามาแทนที่เครือข่ายในตระกูล GSM เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เครือข่าย GSM เข้ามาแทนที่เครือข่าย 1G เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว จึงเป็นการรับประกันถึงพัฒนาการที่มีอย่างต่อเนื่องในด้านต่าง ๆ การเร่งเปิดให้บริการ 3G จึงเปรียบได้กับการเร่งเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยักษ์ใหญ่ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นในอดีต
4. พิจารณาเฉพาะการให้บริการแบบ Voice จะเห็นว่าการลงทุนสร้างเครือข่าย W-CDMA มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการสร้างเครือข่าย GSM ถึงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมาตรฐาน W-CDMA มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวให้ผู้ประกอบสามารถปรับเปลี่ยนทรัพยากรความถี่เพื่อรองรับ Voice และ Non-Voice ได้อย่างผสมผสาน ต่างจากการกำหนดทรัพยากรตายตัวในกรณีของเทคโนโลยี GSM
5. W-CDMA เป็นมาตรฐานสื่อสารไร้สายชนิดเดียวที่มีรูปแบบการทำงานแบบแถบความถี่กว้าง (Wideband) อันนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการสร้างพื้นที่ให้บริการที่กว้างใหญ่ ไปพร้อม ๆ กับความสะดวกในการเพิ่มขยายขีดความสามารถในการรองรับข้อมูลข่าวสาร ต่างจากเครือข่าย 2G โดยทั่วไปที่ปัจจุบันเริ่มประสบกับปัญหาการจัดสรรความถี่ที่ไม่เพียงพอต่อการขยายเครือข่าย เนื่องจากเป็นระบบแบบแถบความถี่แคบ (Narrow Band)
6. กลไกการทำงานภายในเครือข่าย W-CDMA เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐาน IETF (Internet Engineering Task Force) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโปรแกรมหรือบริการพิเศษต่าง ๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้ทำการพัฒนาสร้างบริการผ่านอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย โดยใช้ทักษะความสามารถและความชำนาญที่มีอยู่ เป็นการกระตุ้นให้เกิดบริการประเภท Non-Voice ได้สารพัดรูปแบบ
7. มีแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถในรองรับการสื่อสารข้อมูลที่มีอัตราเร็วสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสู่มาตรฐาน HSDPA ที่รองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราเร็วที่สูงมากถึง 14 เมกะบิตต่อวินาที ในขณะที่มาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM ไม่สามารถพัฒนาให้รองรับการสื่อสารข้อมูลได้มากกว่าเทคโนโลยี EDGE ในปัจจุบัน ซึ่งรองรับข้อมูลได้ด้วยอัตราเร็ว 384 กิโลบิตต่อวินาที และในความเป็นจริงก็ไม่สามารถเปิดให้บริการด้วยอัตราเร็วถึงระดับดังกล่าวได้ เนื่องจากจะทำให้สถานีไม่สามารถรองรับบริการ Voice ได้อีกต่อไป
8. ในอนาคตมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G มีทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจนในการรวมตัวกับมาตรฐานสื่อสารไร้สายชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน Wireless LAN (IEEE802.11b/g) หรือ WiMAX (IEEE802.16d/e/e+) ทำให้ผู้ใช้บริการเครือข่ายไร้สายสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานในเครือข่ายใด ๆ ก็ได้ตามความเหมาะสมทางภูมิประเทศ โดยยังคงได้รับการดูแลโดยผู้ให้บริการเครือข่าย 3G
ความสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้เองที่เป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM จำนวนมากทั่วโลก รวมนักลงทุนหน้าใหม่ ให้ความสำคัญสำหรับการแสวงหาสิทธิ์ในการเปิดให้บริการเครือข่าย 3G และมีแผนกำหนดเปิดให้บริการเทคโนโลยี W-CDMA ดังมีข้อมูลแสดงในรูปที่ 8 โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับต้น ๆ ของโลก 8 รายได้ตัดสินใจเลือกมาตรฐาน W-CDMA เป็นเทคโนโลยี 3G ดังแสดงในรูปที่ 9
ในท้ายที่สุด ความสมบูรณ์แบบในการรองรับธุรกิจ Non-Voice ของมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA จะช่วยผลักดันให้เกิดห่วงโซ่ธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ ดังแสดงในรูปที่ 10 แม้จะมีความพยายามในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมภายในประเทศที่จะผลักดันให้เกิดการประสานผลประโยชน์อย่างลงตัวระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G/2.5G/2.75G กับผู้ประกอบการสื่อข้อมูลต่าง ๆ มาก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของเครือข่ายในตระกูล GSM และ CDMA เองที่ไม่มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะสร้างความประทับใจต่อผู้ใช้บริการ จึงทำให้เกิดการขาดช่วงของความสมดุลในการผสานผลประโยชน์ เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ FOMA ของบริษัท NTT DoCoMo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA และประสบความสำเร็จในการดึงศักยภาพของเครือข่าย W-CDMA ให้เกื้อหนุนต่อความลงตัวสำหรับการร่วมมือในธุรกิจ Non-Voice ในประเทศญี่ปุ่นอย่างงดงาม ต่อเนื่องด้วยความคืบหน้าในการสานต่อโครงสร้างธุรกิจ Non-Voice ในประเทศจีนและอีกหลาย ๆ ประเทศ จึงสรุปได้ว่ามาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G แบบ W-CDMA จะเป็นการเปิดประตูสู่ธุรกิจ Non-Voice ในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้
ข้อมูลทั่วไป Nokia 6750 Mural
ข้อมูลทั่วไป Nokia 6750 Mural - โนเกีย 6750 Mural
- Your life Your colors -
เปิดตัวครั้งแรก 3 กันยายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 850/1900/2100 MHz , HSDPA 3.6 Mbps
จอแสดงผล TFT-LCD 16 ล้านสี - 240 x 320 พิกเซล (2.2")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
เสียงเรียกเข้า MIDI, SP-MIDI, MP3, AAC+, eAAC+, AMR-NB+WB, WMA และ video
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 70 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB
คุณสมบัติเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
- อุปกรณ์นำกลับไปรีไซเคิลได้สูงสุด 80 เปอร์เซ็นต์
- กล่องบรรจุภัณฑ์นำกลับไปรีไซเคิลได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์
- 10% ของคู่มือเป็นกระดาษรีไซเคิล
- ลดการใช้หมึกด้วยการใช้สีขาว-ดำในคู่มือ
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)
- แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)
ขนาด : 97.28 x 47 x 16.25 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 112 กรัม
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1 , Micro-USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต XHTML, WAP Browser
- รองรับบราวเซอร์ OSS (Web Browser)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
MMS, SMS ผ่าน 3G-HSPA, EDGE
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแอพพลิเคชั่น AT&T Navigator
กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Digital camera)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : Automatic, daylight, incandescent, fluorescent
- ปรับโทนสีภาพ : Normal, False colours, Greyscale, Sepia, Negative, Solarise
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ (Self-timer)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 176 x 220 พิกเซล, 15 ฟรมต่อวินาที
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- บันทึกวิดีโอในรูปแบบไฟล์ : MPEG4, 3GP
- ระยะเวลาในการบันทึก 1 ชั่วโมง 30 นาที
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : Automatic, Daylight, Tungsten, Fluorescent
- ปรับโทนสีภาพ : Normal, Greyscale, Sepia, Negative
เครื่องเล่นวีดีโอ (VideoPlayer)
- วีดีโอสตรีมมิ่ง ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล
เครื่องเล่นเพลง MP3 Player
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, MP4, AAC, AAC+, eAAC+, AMR, MIDI, SP-MIDI, WAV, WMA, QCELP, และ 3GP
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
- รองรับไฟล์เสียง : AMR-NB, GSM HR , GSM FR ,GSM EFR,AMR-NB, AMR-WB
คำสั่งเสียง (Voice commands)
เกมส์ : Tetris, Diner Dash 2, Block Breaker Deluxe 2, Jewel Quest II
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,050 mAh (BP-6MT)
เปิดรอรับสาย 530 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 374 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 328 นาที (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 267 นาที
สนทนาผ่านกล้อง 3 ชั่วโมง (Video calling time)
บันทึกวีดีโอต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง 35 นาที (Video recording)
เล่นวีดีโอต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง 30 นาที (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง 20 นาที (Music playback time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 4 ชั่วโมง 20 นาที (Web browsing)
เล่นเกมส์ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง 40 นาที (Gaming time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 6750 Mural [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
- Your life Your colors -
เปิดตัวครั้งแรก 3 กันยายน 2009 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)
ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
- WCDMA 850/1900/2100 MHz , HSDPA 3.6 Mbps
จอแสดงผล TFT-LCD 16 ล้านสี - 240 x 320 พิกเซล (2.2")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
เสียงเรียกเข้า MIDI, SP-MIDI, MP3, AAC+, eAAC+, AMR-NB+WB, WMA และ video
- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 70 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)
- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB
คุณสมบัติเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
- อุปกรณ์นำกลับไปรีไซเคิลได้สูงสุด 80 เปอร์เซ็นต์
- กล่องบรรจุภัณฑ์นำกลับไปรีไซเคิลได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์
- 10% ของคู่มือเป็นกระดาษรีไซเคิล
- ลดการใช้หมึกด้วยการใช้สีขาว-ดำในคู่มือ
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)
- แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)
ขนาด : 97.28 x 47 x 16.25 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 112 กรัม
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)
- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1 , Micro-USB
- รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ stereo sound)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต XHTML, WAP Browser
- รองรับบราวเซอร์ OSS (Web Browser)
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)
- ข้อความแชท (Instant Messaging)
MMS, SMS ผ่าน 3G-HSPA, EDGE
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)
- รองรับแอพพลิเคชั่น AT&T Navigator
กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล (Digital camera)
- ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Digital camera)
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : Automatic, daylight, incandescent, fluorescent
- ปรับโทนสีภาพ : Normal, False colours, Greyscale, Sepia, Negative, Solarise
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ (Self-timer)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)
- ความละเอียด 176 x 220 พิกเซล, 15 ฟรมต่อวินาที
- ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital zoom)
- บันทึกวิดีโอในรูปแบบไฟล์ : MPEG4, 3GP
- ระยะเวลาในการบันทึก 1 ชั่วโมง 30 นาที
- ปรับสมดุลแสดงสีขาว (White balance) : Automatic, Daylight, Tungsten, Fluorescent
- ปรับโทนสีภาพ : Normal, Greyscale, Sepia, Negative
เครื่องเล่นวีดีโอ (VideoPlayer)
- วีดีโอสตรีมมิ่ง ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล
เครื่องเล่นเพลง MP3 Player
- รองรับไฟล์เสียง : MP3, MP4, AAC, AAC+, eAAC+, AMR, MIDI, SP-MIDI, WAV, WMA, QCELP, และ 3GP
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)
เครื่องบันทึกเสียง (Voice Recorder)
- รองรับไฟล์เสียง : AMR-NB, GSM HR , GSM FR ,GSM EFR,AMR-NB, AMR-WB
คำสั่งเสียง (Voice commands)
เกมส์ : Tetris, Diner Dash 2, Block Breaker Deluxe 2, Jewel Quest II
Flight mode - ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,050 mAh (BP-6MT)
เปิดรอรับสาย 530 ชั่วโมง (Standby Time)
- ระบบ WCDMA 374 ชั่วโมง
สนทนาต่อเนื่อง 328 นาที (Talk Time)
- ระบบ WCDMA 267 นาที
สนทนาผ่านกล้อง 3 ชั่วโมง (Video calling time)
บันทึกวีดีโอต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง 35 นาที (Video recording)
เล่นวีดีโอต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง 30 นาที (Video playback time)
ฟังเพลงต่อเนื่อง 25 ชั่วโมง 20 นาที (Music playback time)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต 4 ชั่วโมง 20 นาที (Web browsing)
เล่นเกมส์ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง 40 นาที (Gaming time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ Nokia 6750 Mural [PIC & VOTE]
รายละเอียด : Nokia Product Page [ENG SITE]
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รายการบล็อกของฉัน
-
-
ฟังเพลงมาจากไหนก็รักเธอ เพลงประกอบละครตราบาปสีขาว - มาจากไหนก็รักเธอ สิงโต THE STAR 5 เพลงประกอบละครตราบาปสีขาว ค่าย : X'ACT ฟังเพลงมาจากไหนก็รักเธอ เพลงประกอบละครตราบาปสีขาว